ข่าวธุรกิจ

Meta เล็งเปิดตัว AI ที่เร็วที่สุดในโลกกลางปีนี้

Meta.png

บริษัทโซเชียลมีเดียรายใหญ่ Meta เล็งเปิดตัว AI ในชื่อ RSC ซึ่งเป็น Supercomputer ตัวใหม่คาดเร็วที่สุดในโลกพร้อมเปิดให้ใช้งานได้อย่างสมบูรณ์ภายในกลางปีนี้

บริษัทแม่ Facebook อย่าง Meta เล็งเปิดตัว AI หรือ ปัญญาประดิษฐ์ตัวใหม่เพื่อปูทางไปสู่การสร้าง Metaverse ในชื่อ Research SuperCluster (RSC) เมื่อวันจันทร์ที่ 24 มกราคม ที่ผ่านมา โดยทางองค์กรเชื่อมั่นว่า RSC จะเป็นหนึ่งใน Supercomputer ที่ทำงานได้เร็วที่สุดในโลก และจะสามารถก้าวขึ้นไปเป็นนวัตกรรมอันดับ 1 หลังเปิดให้บริการอย่างสมบูรณ์ในช่วงกลางปี 2022 ที่จะถึงนี้อย่างแน่นอน ซึ่งการพัฒนา AI ระดับสูงเพื่อขึ้นไปยืนยังจุดสูงสุดนั้นจำเป็นต้องใช้คอมพิวเตอร์เครื่องใหม่ที่ทรงพลังมากพอที่จะทำงานได้มากกว่า 10 ล้านครั้งต่อวินาทีขึ้นไป อย่างไรก็ตามทางบริษัทได้ระบุไว้ในคำแถลงการณ์ว่า

“ในที่สุดการพัฒนา RSC ที่เสร็จสมบูรณ์เป็นที่เรียบร้อยก็จะช่วยปูทางไปสู่การสร้างเทคโนโลยีสำหรับแพลตฟอร์มประมวลผลอย่าง Metaverse ที่แอปพลิเคชัน และผลิตภัณฑ์ AI จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการดำเนินการครั้งนี้เป็นอย่างมากนั่นเอง”

272600494 980161572916475 3328327650672559297 N 1024x576.jpg
Source : Meta AI

Meta เล็งเปิดตัว AI ที่สามารถทำงานบน Metaverse ได้อย่างราบรื่น

ทางด้าน Mark Zuckerberg ซีอีโอแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียชื่อดังได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่าน Facebook ในวันอังคารที่ 25 มกราคม ระบุว่านวัตกรรมใหม่ชิ้นนี้จำเป็นต้องใช้พลังงานมหาศาลในการประมวลผล ซึ่ง RSC จะช่วยให้โมเดล AI ระดับสูงเรียนรู้ภาษาที่แตกต่างกันออกไปกว่า 100 รายการ เพื่อนำไปปรับใช้ในระบบจำแนกสิ่งของผ่านการวิเคราะห์ภาพ และวิดีโอ (Computer Vision), ระบบประมวลภาษา (Natural Language Processing) และระบบรู้จำคำพูด (Speech Recognition) ได้นั่นเอง

“องค์กรของเราหวังว่า RSC จะช่วยสร้างระบบ AI ขึ้นมาใหม่ทั้งหมด ให้มีศักยภาพในด้านต่าง ๆ เช่น การแปลเสียงแบบ Real-time ให้กับคนกลุ่มใหญ่ที่พูดกันคนละภาษา เพื่อให้สามารถทำงานร่วมกันในโครงการวิจัย หรือเล่นเกม AR ร่วมกันได้อย่างราบรื่น”

Markpostfacebook.png
Source : Mark Zuckerberg's Facebook

นักวิเคราะห์ชี้ AI ของ Meta อาจไม่ได้เจ๋งอย่างที่คิด

อย่างไรก็ตาม ทาง Meta ไม่ได้ออกมาเปิดเผยว่าคอมพิวเตอร์ดังกล่าวจะถูกติดตั้งไว้ในสถานที่ใด หรือแม้กระทั่งมูลค่าของต้นทุนที่ใช้ในการพัฒนา และสร้างนวัตกรรมชิ้นนี้ขึ้นมา ทางด้าน Camila Russo นักวิเคราะห์ผู้เชี่ยวชาญระบบ DeFi ก็ได้ออกมาเปรียบเทียบว่านวัตกรรมตัวใหม่ของ Meta นั้นถูกสร้างขึ้นมาในพื้นที่ส่วนตัวเพื่อหารายได้จากข้อมูลของผู้ใช้งานบน Metaverse ของตนเอง เทียบกับเครือข่าย Ethereum ที่สร้างคอมพิวเตอร์ระดับโลกในที่สาธารณะเพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานควบคุมข้อมูลของตนบน Metaverse ได้

https://twitter.com/CamiRusso/status/1485748622331420674?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1485748622331420674%7Ctwgr%5E%7Ctwcon%5Es1_&ref_url=https%3A%2F%2Fcointelegraph.com%2Fnews%2Fmeta-unveils-metaverse-ai-supercomputer-claims-it-will-be-world-s-fastest

ในเดือนธันวาคม ปี 2021 Raja Koduri รองประธานฝ่ายระบบประมวลผล และกราฟิกแห่ง Intel กล่าวว่าโครงสร้างพื้นฐานด้านคอมพิวเตอร์ในปัจจุบันยังคงต้องได้รับการพัฒนาเพิ่มขึ้นอีกเป็น 1,000 เท่าให้สามารถนำไปใช้ขับเคลื่อน Metaverse ได้ ทั้งนี้ Koduri ได้กล่าวกับ Quartz ในขณะนั้นว่า

“คุณต้องประมวลผลให้ได้เท่ากับ Petaflops (เท่ากับ 1,000 teraflops) ซึ่งจะใช้เวลาน้อยกว่า 10 มิลลิวินาทีในการทำงานแบบ Real-time”

ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต
ข่าวต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง

ตลาด Altcoin มีโอกาสเสี่ยงถูกปรับฐาน ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
คาดการณ์ราคา Bitcoin หลังช่วง Halving! พร้อมเผยเป้าหมาย ที่เหรียญอาจทำราคาพุ่งไปถึง
วาฬในเครือข่าย Solana ใช้เงินกว่า 4.9 ล้านดอลลาร์ ในการเข้าซื้อเหรียญมีม PUPS
Bitkub เปิดตัว Open Beta ของ 'TSX by Astronize' โปรเจกต์เกมใหม่ล่าสุดบน Bitkub Chain