ซีอีโอ Twitter และ แพลตฟอร์มคริปโตชื่อดัง Square ได้โพสต์แจ้งข่าวบรรดาผู้ติดตามจำนวนกว่า 5.9 ล้านรายผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวในช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 29 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ระบุว่าเขาได้บอกลาออกจากตำแหน่งซีอีโอบริษัทโซเชียลมีเดียรายใหญ่อย่างทวิตเตอร์ที่เขาได้ร่วมก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2006 ซึ่งกินเวลานานถึง 6 ปีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการลาออกของเขาจะมีผลทันทีในวันนี้ โดยล่าสุดคณะกรรมการบอร์ดบริหารได้มีการลงมติเลือกแต่งตั้ง Parag Agrawal ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี และ คณะกรรมการฝ่ายบริหาร ขึ้นมาดำรงตำแหน่งแทนที่อดีตซีอีโอเป็นที่เรียบร้อย
/cdn.vox-cdn.com/uploads/chorus_image/image/70207097/acastro_211129_4896_0001.0.jpg)
สาเหตุหลักที่ทำให้ Jack Dorsey ลาออกจาก Twitter
อดีตซีอีโอทวิตเตอร์ได้ออกมายอมรับว่าการลงมติของคณะกรรมการบอร์ดบริหารเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ Jack Dorsey ลาออกจาก Twitter ด้วยเช่นเดียวกัน เนื่องด้วยบอร์ดบริหารได้เล็ง Bret Taylor ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานคนใหม่ที่จะส่งผลให้เกิดการขยับขยายตำแหน่งของผู้คนในบริษัทในเร็ว ๆ นี้อย่างแน่นอน Dorsey กล่าวว่า
“ผมเชื่อว่าการมอบพื้นที่ให้ Parag ได้ใช้เพื่อก้าวขึ้นไปเป็นผู้นำนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญ … และ ผมก็ยังเชื่อว่าบริษัทจำเป็นที่จะต้องยืนหยัดได้ด้วยตนเอง โดยปราศจากอิทธิพล หรือ การควบคุมจากผู้ก่อตั้งบริษัท”
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการลาออกครั้งนี้ ทำให้เกิดความเคลื่อนไหวในตลาดหุ้น Nasdaq ที่ได้ออกมาระงับการซื้อขายหุ้นทวิตเตอร์ในวันดังกล่าวชั่วคราว หลังจากเกิดความผันผวนเล็กน้อยส่งผลให้ราคาหุ้นของทวิตเตอร์ดิ่งลงมากว่า 2.74% จากการประกาศลาออกของ Jack Dorsey

Source : Nasdaq
ยังคงไม่มีวี่แววว่า Jack Dorsey จะเข้ามาทำงานในวงการคริปโตอย่างจริงจัง
Jack Dorsey เคยลาออกจากทวิตเตอร์มาแล้วครึ้งหนึ่ง ตั้งแต่ปี 2006 จนถึง ปี 2008 ต่อมาหลังจากที่ Dick Costolo ได้พ้นจากตำแหน่งในปี 2015 ซีอีโอรายนี้ก็ได้กลับเข้ามาทำหน้าที่ดังกล่าวอีกครั้งจนถึงปัจจุบัน
แม้ว่า Dorsey มักจะออกมาประกาศข่าวสำคัญของแพลตฟอร์มผ่านทางทวิตเตอร์เป็นบางครั้งบางคราว แต่ปัจจุบันก็ยังไม่พบสัญญาณใด ๆ ที่จะบ่งบอกถึงแผนการของเขาในภายภาคหน้า ซึ่งนักลงทุนต่างพากันวิเคราะห์ว่าเขาอาจกำลังเตรียมวางแผนที่จะหันมาทำงานในวงการคริปโตอย่างเต็มตัว ด้วยการบริหาร Square และ พัฒนาแพลตฟอร์มการแลกเปลี่ยน Bitcoin (BTC) ในรูปแบบ Decentralized ตัวใหม่ที่จะมาช่วยอำนวยความสะดวกให้กับเครือข่าย โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาการควบคุมจากหน่วยงานรัฐในชื่อ tbDEX โดยล่าสุดได้ดำเนินการออก White paper เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

นอกจากนี้ทาง Square กำลังวางแผนสร้าง Wallet ขององค์กรเพื่อสนับสนุนให้ Bitcoin ได้เข้ามาอยู่ในตลาดกระแสหลักมากขึ้นอีกด้วย ซึ่งผู้คนในวงการคริปโตต่างก็มองหาก Dorsey ได้เริ่มก้าวเข้ามาบริหารองค์กรดังกล่าวอย่างเต็มตัวแล้ว อาจช่วยสร้างความคึกคัก และ เพิ่มมูลค่าให้กับตลาดคริปโตได้อย่างมหาศาลเลยทีเดียว