นักวิเคราะห์ของ JPMorgan กล่าวว่า Ethereum กำลังสูญเสียส่วนแบ่งตลาด NFT ให้กับ Solana
สกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่เป็นอันดับสองตามมูลค่าตลาด กำลังสูญเสียส่วนแบ่งการตลาดให้กับคู่แข่งอย่าง Solana ในตลาด non-fungible tokens (NFTs)
สกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่เป็นอันดับสองตามมูลค่าตลาด กำลังสูญเสียส่วนแบ่งการตลาดให้กับคู่แข่งอย่าง Solana ในตลาด non-fungible tokens (NFTs)
นักวิเคราะห์จาก JPMorgan นำโดย Nikolaos Panigirzoglou เปิดเผยว่า Ethereum (ETH) ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่เป็นอันดับสองตามมูลค่าตลาด กำลังสูญเสียส่วนแบ่งการตลาดให้กับคู่แข่งอย่าง Solana ในตลาด non-fungible tokens (NFT)
ส่วนแบ่งของ Ethereum ในตลาด NFT ลดลง
รายงานจาก Business Insider เผยว่า ส่วนแบ่งปริมาณการซื้อขายของ non-fungible tokens (NFTs) บนเครือข่าย Ethereum ได้ลดลงจาก 95% เมื่อต้นปี 2021 เป็น 80% อันเป็นผลมาจากค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมที่สูงที่เห็นในเครือข่ายของสกุลเงินดิจิทัล
เช่นเดียวกับแอปพลิเคชันการเงินกระจายอำนาจ ปัญหาเรื่องความแออัดของเครือข่าย และค่าธรรมเนียมแก๊สที่สูง ทำให้ผู้คนมองหาทางเลือกในการนำแอปพลิเคชัน NFT ไปใช้บล็อกเชนอื่น ๆ และ Solana (SOL) เป็นผู้รับผลประโยชน์ในครั้งนี้ โดยเข้ามาชิงส่วนแบ่งการตลาดจาก Ethereum ได้
หากการสูญเสียส่วนแบ่ง NFT เริ่มดูชัดเจนมากขึ้นในปี 2022 นั่นจะกลายเป็นปัญหาใหญ่สำหรับการประเมินมูลค่าของ Ethereum ได้
ตลาด NFT เติบโตขึ้นทะลุ 12 พันล้านดอลลาร์ในปีที่ผ่านมา โดยบางคอลเลกชั่นถูกขายได้ในมูลค่าหลายล้านเลยทีเดียว
โทเค็น Non-fungible token หรือที่เรียกย่อ ๆ ว่า “NFT” เป็นคริปโตเคอร์เรนซี่ที่แสดงถึงความเป็นเจ้าของในสินทรัพย์ และมีลักษณะเฉพาะตัวที่ไม่สามารถทดแทนได้ ปัจจุบันได้ถูกนำไปใช้วงการศิลปะไม่ว่าจะเป็น ภาพวาด ภาพกราฟฟิค วีดีโอและเพลง กล่าวได้ว่า NFT เป็นวิธีสากลสำหรับครีเอเตอร์ในการเป็นเจ้าของ ควบคุม และได้รับประโยชน์จากการสร้างสรรค์ผลงานของพวกเขา
ปัจจุบันค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมเฉลี่ยบนบล็อกเชน Ethereum ที่มากกว่า 80 ดอลลาห์ ทำให้นักเทรดรายย่อยยอมออกจากเครือข่ายนี้ โดยบล็อคเชนคู่แข่งอย่าง Solana ซึ่งถูกสร้างขึ้นให้มีความสามารถในการปรับขนาด และสามารถรองรับจำนวนธุรกรรมต่อวินาทีที่สูงขึ้น กำลังได้รับประโยชน์จากปัญหาคอขวดของ Ethereum ไปเต็ม ๆ
Solana ได้รับประโยชน์ในครั้งนี้
นักวิเคราะห์ของ JPMorgan กล่าวว่า เครือข่ายอื่น ๆ รวมถึง WAX และ Tezos กำลังได้รับส่วนแบ่งการตลาดเช่นกัน นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ได้เผยเมื่อปลายปีที่แล้วกล่าวว่า Ethereum มีศักยภาพในการเติบโตมากกว่า Bitcoin เนื่องจากความสนใจที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นกลไกขับเคลื่อนระบบนิเวศของแอพพลิเคชั่นแบบกระจายอำนาจ (DeFi)
Alkesh Shah นักกลยุทธ์ด้านสินทรัพย์ดิจิทัลที่ Bank of America ได้เปิดเผยว่า เขาเชื่อว่า Solana มีศักยภาพที่จะกลายเป็น Visa แห่งวงการคริปโตเคอเรนซี เนื่องจากเน้นไปที่ความสามารถในการปรับขนาด (scalability) ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมที่ต่ำ และความสะดวกในการใช้งาน
สิ่งที่น่าจับตาดูต่อไปคือ Solana จะชิงส่วนแบ่งทางตลาดไปได้หรือไม่ และการย้ายไปสู่ Ethereum 2.0 ที่จะเสร็จสมบูรณ์ในปี 2022 นี้จะทำให้ Ethereum แย่งส่วนแบ่งตลาด NFT กลับมาได้หรือไม่ ต้องติดตามกันต่อไป
