Dolce and Gabbana สอย 6 ล้าน USD แบบชิว ๆ จากคอลเลกชันแฟชั่น NFT
Collezione Genesi คอลเลกชันแฟชั่น NFT สุดพิเศษของ Dolce & Gabbana (D&G) แบรนด์แฟชั่นสุดหรูสัญชาติอิตาลี ได้สร้างสถิติใหม่ให้แก่สายแฟชั่นใน NFT อีกครั้ง ด้วยการทำยอดขายที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์
Collezione Genesi คอลเลกชันแฟชั่น NFT สุดพิเศษของ Dolce & Gabbana (D&G) แบรนด์แฟชั่นสุดหรูสัญชาติอิตาลี ได้สร้างสถิติใหม่ให้แก่สายแฟชั่นใน NFT อีกครั้ง ด้วยการทำยอดขายที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์
Dolce & Gabbana (D&G) แบรนด์แฟชั่นสุดหรูสัญชาติอิตาลี ได้ผันตัวเข้ามาสู่โลกดิจิทัลผ่านการจำหน่ายคอลเลกชันแฟชั่นที่มีชื่อว่า Collezione Genesi ในรูปแบบ Non-fungible token (NFT) จำนวนทั้งสิ้น 9 ชิ้นด้วยกัน ซึ่งความพิเศษของเจ้าคอลเลกชันแฟชั่นดังกล่าวนั้นมาจากการที่มันเป็นผลงานการออกแบบจากเจ้าของแบรนด์อย่าง Domenico Dolce และ Stefano Gabbana โดยตรง
ทั้งนี้คอลเลกชันดังกล่าวนั้นประสบความสำเร็จอย่างมาก และพวกเขาก็ได้รับเงินไปจุก ๆ 1885.719 Ethereum หรือราว ๆ เกือบ 6 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยทั้งสิ้น 203.53 ล้านบาท เลยทีเดียว โดยตัวเลขข้างต้นนี้ถือเป็นสถิติสูงสุดของคอลเลกชันแฟชั่นรูปแบบ NFT ในปัจจุบัน
D&G กลับมาผงาดอีกครั้งด้วยคอลเลกชันแฟชั่น NFT
ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2018 ทาง Dolce & Gabbana นั้นประสบปัญหาครั้งยักษ์ใหญ่ในโลกดิจิทัลหลังจากมีการเผยแพร่โฆษณาที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการเหยียดทางเชื้อชาติ เพศ และขนาด ซึ่งจุดแตกหักนี้เกิดจากการที่แบรนด์แฟชั่นสุดหรูสัญชาติอิตาลีได้เปิดตัววิดีโอในประเทศจีนที่มีนางแบบชาวจีนกินสปาเก็ตตี้ด้วยตะเกียบอย่างงุ่มง่าม และเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ประชาชนแดนมังกรที่เป็นแหล่งรายได้หลักของพวกเขา ไม่พอใจอย่างมาก และแบนสินค้านี้กันถ้วนหน้า
อย่างไรก็ตาม ผลงานคอลเลกชันแฟชั่น NFT อย่าง Collezione Genesi ก็ได้กลับมากู้ศักดิ์ศรีให้กับแบรนด์นี้ได้อีกครั้งด้วยยอดขายถล่มทลายดังที่กล่าวเอาไว้ข้างต้นของบทความ
ทาง Nick Jushchyshyn ผู้อำนวยการโครงการด้าน Virtual Reality และ สื่อเสมือนจริง แห่งมหาวิทยาลัย Drexel ออกมาแสดงความยินดีกับการเคลื่อนไหวดังกล่าว และกล่าวว่า
“ราคาที่พวกเขาได้นั้นไม่น่าแปลกใจเลยแม้แต่น้อย เพราะพวกคุณนั้นได้เหล่านักออกแบบที่มีชื่อเสียงระดับโลกมาสร้างสรรค์สิ่งที่ไม่เหมือนใครให้แก่คุณ แถมมันยังอัดแน่นไปด้วยคามใส่ใจในรายละเอียดอีกด้วย ซึ่งผลงานดังกล่าวนั้นเหนือไปกว่าสิ่งที่เราสามารถคาดหวังได้จากการเรนเดอร์ดิจิทัลทั่วไป และซึ่งงานเหล่านี้เป็นหนึ่งในนั้น มันสมเหตุสมผลดีที่จะมีนักสะสม NFT ในโลกที่จะให้ความสำคัญกับมัน”
ทั้งนี้รายชื่อของผู้สอย NFTs จากมือของยักษ์ใหญ่ด้านแฟชั่นรายนี้นั้นประกอบไปด้วย Red DAO องค์กรแฟชั่นดิจิทัลแบบกระจายอำนาจ, Boston Protocol และนักสะสม NFT ชั้นนำอย่าง Pransky และ Seedphrase
นอกจากนี้ผลงานบางส่วนของ Collezione Genesi และผลงานแฟชั่นอื่น ๆ ของพวกเขายังได้รับการประมูลโดย UNXD ซึ่งเป็นตลาดดิจิทัลที่เน้นความหรูหรา และวัฒนธรรม
เหล่าอุตสาหกรรมเริ่มผันตัวสู่โลกเสมือนจริง
ดินแดนแห่ง NFT นั้นกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากลักษณะเฉพาะของมัน เพราะเหล่าโทเค็นที่เสนอในรูปแบบ NFT นั้นมีความแตกต่างจากโทเค็นทั่วไปอย่างสิ้นเชิง โดย NFT จะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในผลงานแต่ละชิ้น และนั่นถือเป็นหัวใจหลังที่ทำให้สินทรัพย์ดิจิทัลที่เป็นเจ้าของบนบล็อคเชนอย่าง NFT นี้มีมูลค่ามหาศาล
อย่างไรก็ตาม หากให้อธิบายตามหลักวิชาการถึงปัจจัยหลักที่สามารถ “สร้างมูลค่า” ที่แท้จริงให้แก่สินทรัพย์เหล่านี้แล้วล่ะก็... การมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวนั้นสะท้อนถึงจำนวนอุปทานที่จำกัดนั่นเอง
ทาง Merav Ozair ผู้เชี่ยวชาญชั้นนำด้าน Blockchain และ FinTech ของ Rutgers Business School ยอมรับว่าการเปลี่ยนแปลงไปสู่โลกเสมือนจริงกำลังถูกพบเห็นอย่างมากมาย ซึ่งเหล่าสินค้าฟุ่มเฟือยก็จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศเช่นเดียวกัน
