General

ผู้คนควรตื่นตัวกับการปกป้องกระเป๋าเงิน Crypto จากการโจมตีด้วยคอมพิวเตอร์ควอนตัม

Photo 1506645292803 579c17d4ba6a 1.jpg

ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์คาดการณ์ว่าคอมพิวเตอร์ควอนตัมสามารถก้าวหน้าพอที่จะทำลายกำแพงความปลอดภัยของ Crypto ภายในหนึ่งทศวรรษ นั่นทำให้การใช้ Digital Signature เพื่อเข้าถึงบัญชีการเงินอาจมีความเสี่ยงที่จะถูกโจมตีจากการแฮ็ก

ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ออกมาเตือนให้เหล่านักลงทุนเตรียมการณ์ด้านการรักษาความปลอดภัยกระเป๋าเงิน Crypto สุดรักของพวกเขาไว้ให้ดี โดยระบุว่า ในที่สุดคอมพิวเตอร์ควอนตัม (Quantum Computer) จะสามารถเจาะกำแพงความปลอดภัยของ Crypto ได้ แม้ว่าเทคโนโลยีของคอมพิวเตอร์ควอนตัมยังคงพัฒนาอยู่ก็ตาม ซึ่งผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าคอมพิวเตอร์ควอนตัมสามารถก้าวหน้าพอที่จะทำลายความปลอดภัยการเข้ารหัสของสินทรัพย์ดิจิทัล รวมถึงกระเป๋าเงิน Bitcoin ภายในหนึ่งทศวรรษเท่านั้น

ทั้งนี้ทางผู้เชี่ยวชาญก็ได้อธิบายถึงสาเหตุการเจาะระบบดังกล่าว โดยว่าบริการทางการเงินของโลกส่วนใหญ่มักจะใช้ระบบรหัสแบบอสมมาตร (Asymmetric Cryptography) ซึ่งโดยทั่วไปบุคคลปกติก็จะมีกุญแจ 2 ดอก คือ กุญแจส่วนตัว (Private Key) และกุญแจสาธารณะ (Public Key) เพื่อเข้าถึงบริการดิจิทัล เช่น อีเมล หรือกระเป๋าเงินดิจิทัล และตรวจสอบโดยลายเซ็นดิจิทัลในบัญชีผู้ติดต่อ ซึ่งด้วยเทคนิคของลายเซ็นดิจิทัล เช่น การสร้างลายเซ็นดิจิทัลตามคณิตศาสตร์ของเส้นโค้งรูปไข่ หรือ Elliptic Curve Digital Signing Algorithm (ECDSA) อาจมีความเสี่ยงที่จะทำให้แฮ็กเกอร์ที่มีคอมพิวเตอร์ควอนตัมสามารถปลอมแปลงลายเซ็นดิจิทัล และสูบเงินจากกระเป๋าเงินดิจิทัลได้ในเวลาต่อมานั่นเอง

“ทุกสถาบันการเงิน ทุกการ Login บนโทรศัพท์ของคุณ ทั้งหมดนี้ใช้การเข้ารหัสแบบอสมมาตร ซึ่งเสี่ยงต่อการถูกแฮ็กด้วยคอมพิวเตอร์ควอนตัม” Fred Thiel ซีอีโอของ Marathon Digital Holdings ผู้เชี่ยวชาญด้านการขุด Cryptocurrency กล่าว

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญก็บอกอีกพวกไม่จำเป็นต้องตื่นตระหนกแต่อย่างใด เพราะทั่วโลกยังมีเวลาเตรียมตัวให้พร้อมที่จะรับมือ ซึ่งทาง Nic Carter หุ้นส่วนผู้ก่อตั้ง Castle Island Ventures ก็ได้ชี้ให้เห็นว่าการทลายเติบโตของเทคโนโลยีควอนตัมจะค่อยเป็นค่อยไปมากกว่าจะเกิดขึ้นแบบฉับพลัน

“มันจะไม่เกิดขึ้นชั่วข้ามคืน เราจะมีคำเตือนล่วงหน้ามากมายหากการคำนวณควอนตัม (เคย) โตจนเต็มที่ และความซับซ้อนที่มันเริ่มคุกคามพื้นฐานการเข้ารหัสลับหลักของเรา”

Thiel อธิบายเพิ่มเติมว่าสถาบันวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีแห่งชาติ (NIST) ในสหรัฐอเมริกาก็กำลังทำงานเกี่ยวกับมาตรฐานใหม่สำหรับการเข้ารหัสเพื่อเสริมความแข็งแกร่งของระบบ Quantum-proof

ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต
ข่าวต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง

SharpLink ทุ่มซื้อ ETH มูลค่า 295 ล้านดอลลาร์ สูงกว่าจำนวนเหรียญที่ถูกผลิตในหนึ่งเดือน
ปากีสถานเตรียมก้าวกระโดดสู่ยุค Bitcoin ด้วยพลังของคนรุ่นใหม่และนโยบายภาครัฐ
กองทุน Spot Ether ETF ดึงดูดเงินไหลเข้าเกือบ 453 ล้านดอลลาร์ในหนึ่งวัน ทะยานต่อเนื่องเป็นวันที่ 16
สัญญาณตลาดอนุพันธ์ชี้! นักลงทุนยังไม่ตื่นตระหนก แม้ Bitcoin ร่วงต่ำกว่า $115,000 พร้อมแรงขายจากรายใหญ่