Metaverse

จีนเตือนให้ผู้คนระวังการฉ้อโกงบน Metaverse

Chinese Banking Regulator Warns Against Fraud Risks in the Metaverse 1280x720 1.jpg

หลังการกวาดล้างธุรกิจซื้อขาย และกิจการเหมืองคริปโตจนหมดสิ้น ทางรัฐบาลจีนก็ได้ออกมาแสดงความกังวลในเรื่องการฉ้อโกงบน Metaverse ที่เพิ่มขึ้นจนน่าตกใจ

China Banking and Insurance Regulatory Commission (CBIRC) หน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงินแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประกาศเตือนประชาชนในประเทศถึงความเสี่ยงที่เกิดจากการฉ้อโกงบน Metaverse พร้อมออกมาตั้งข้อสังเกตที่เน้นถึงวิธีการเลือกเป้าหมายของเหล่าอาชญากร และนักต้มตุ๋นในการระดมทุนภายใต้ชื่อของโปรเจกต์ที่มีชื่อเสียง ก่อนจะฉวยโอกาสขโมยเงินเหล่านั้นไปได้ในพริบตาเดียว

วิธีฉ้อโกงบน Metaverse ที่นักต้มตุ๋นมักเลือกใช้

ทางรัฐบาลจีนได้ออกมาเผยวิธีโกงที่นักต้มตุ๋นเลือกที่จะนำมาใช้ก่อคดีด้วยการใช้ Metaverse เป็นเครื่องมือหลัก ซึ่งวิธีแรก เรียกได้ว่าเป็นแนวทางที่ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายมากที่สุด มักพบได้บ่อยในโครงการที่มีการผสมผสานเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ Virtual Reality เป็นต้น โดยโปรเจกต์เหล่านี้มักจะดึงดูดเหล่านักลงทุนที่ให้ผลตอบแทนได้ค่อนข้างสูงเข้ามาร่วมลงทุนด้วย จึงทำให้ตกเป็นเป้าหมายของเหล่าอาชญากรที่จ้องจะขโมยเงินทุนจำนวนมหาศาลไป

Metaverse Shutterstock 2085868447 700x.png

วิธีต่อมาที่มักพบได้บ่อยไม่แพ้กันนั้นคงจะหนีไม่พ้นการฉ้อโกงบนจักรวาล Metaverse ผ่านโปรเจกต์เกม Blockchain ในรูปแบบ Play-to-Earn (P2E) ซึ่งอาชญากรจะแฝงตัวเข้ามาเพื่อทำสัญญาว่าจะให้ผลตอบแทนจากการลงทุนโทเคนในเกมที่สูง ก่อนจะฉวยโอกาสขโมยเงินดังกล่าวออกมาเมื่อมีมูลค่าการลงทุนครบตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ นอกจากนี้การหลอกลวงดังกล่าวยังสามารถมาในรูปแบบของสินทรัพย์เสมือนประเภทอสังหาริมทรัพย์ได้อีกด้วย โดยอาชญากรจะกระตุ้นให้ผู้ใช้งานเกิดอาการตื่นตระหนก จนต้องรีบซื้อสินทรัพย์เหล่านั้นไปในที่สุด

รัฐบาลอยากให้ชาวจีนรับรู้ถึงความเสี่ยงให้ได้มากที่สุด

ล่าสุดทางรัฐบาลได้ออกมาจัดการประชุมร่วมระดับรัฐมนตรี (Inter-Ministerial Joint Conference) ในการพูดถึงประเด็นการกำจัดการระดมทุนที่ผิดกฎหมาย พร้อมเรียกร้องให้ประชาชนในประเทศระมัดระวังถึงโปรเจกต์เหล่านั้น และเมื่อพบเจอให้รายงานพฤติกรรมต้องสงสัยต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในทันที โดยในประกาศแจ้งเตือนของทางการได้ระบุไว้ว่า

“พฤติกรรมการฉ้อโกงภายใต้คำว่า Metaverse ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่น่าดึงดูด และเต็มไปด้วยการฉ้อโกง อาจส่งผลให้ผู้เข้าร่วมได้รับความเสียหายต่อทรัพย์สิน ดังนั้นทางรัฐบาลจึงขอให้ประชาชนตระหนักถึงการป้องกันควาเสี่ยง และระมัดระวังข้อมูลส่วนตัว และการถูกหลอกลวง”

กังวล แต่ไม่สั่งห้าม

แม้ทางรัฐบาลจีนจะออกมาสั่งห้ามใช้ และขุดเหมืองสกุลเงินดิจิทัลภายในประเทศไปเมื่อหลายเดือนก่อน แต่ทว่าในปัจจุบันหน่วยงานดังกล่าวก็ได้ออกมาผ่อนปรนในการกำกับดูแล Non-Fungible Token (NFT) และ Metaverse มากขึ้น ด้วยเหตุนี้บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่อย่าง Tencent, Huawei และ Alibaba จึงได้รีบยื่นขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าที่เกี่ยวข้องกับ Metaverse กันเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ในทางการเซี่ยงไฮ้ยังได้ออกมาเผยถึงแผนการนำ Blockchain และ Metaverse มาให้บริการแก่ประชาชนในแผนพัฒนา 5 ปีด้วยเช่นเดียวกัน

การแฮ็กเริ่มลุกลามเข้ามาในตลาดคริปโตมากขึ้นเรื่อย ๆ

เหยื่อจากการก่ออาชญากรรมบนโลกไซเบอร์เพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ ในปี 2022 จะเห็นได้จากบางแพลตฟอร์มต้องเผชิญกับการสูญเสียอย่างมหาศาลจากผลกระทบของการก่ออาชญากรรมบนโลกไซเบอร์ โดยเมื่อไม่นานมานี้ CZ หรือ Changpeng Zhao ซีอีโอแห่งแพลตฟอร์มรายใหญ่อย่าง Binance ก็ได้ออกมาเตือนให้ผู้ใช้งานระมัดระวัง SMS ที่แนบลิงก์ต้องสงสัยมาในข้อความ โดยอาชญากรได้วางแผนที่จะหลอกให้ผู้ใช้งานล็อกอินเข้าสู่เว็บไซต์ปลอมที่ถูกสร้างขึ้น เพื่อหวังขโมยข้อมูลส่วนตัว และขโมยเงินที่อยู่ใน Wallet ของผู้โชคร้ายเหล่านั้นไปในที่สุด

Hacker.jpeg

นอกจากนี้ยังพบว่าหนึ่งในโปรเจกต์ชื่อดังอย่าง Wormhole token bridge ก็ได้ตกเป็นเหยื่อของบรรดาแฮ็กเกอร์ หลังจากถูกเจาะระบบความปลอดภัย และสูญเสียโทเคน Wrapped Ether (wETH) ไปในจำนวนมากถึง 120,000 เหรียญ หรือ คิดเป็นมูลค่า 321 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เลยทีเดียว ยิ่งไปกว่านั้นแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตชื่อดังอย่าง Crypto.com ก็ถูกแฮ็กเกอร์มือดีเจาะระบบรักษาความปลอดภัย และขโมยเงินมูลค่ากว่า 33.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐไปได้

ด้วยเหตุนี้ หน่วยงานรัฐ และแพลตฟอร์มต่าง ๆ จึงได้คอยออกมาย้ำเตือนต่อผู้บริโภคอยู่บ่อยครั้ง เพื่อให้ทุกคนตระหนัก และระมัดระวังตนเองไม่ให้ตกเป็นเหยื่อยของบรรดานักต้มตุ๋นบนโลกไซเบอร์ได้อย่างง่ายดายนั่นเอง

ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต
ข่าวต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง

รายงาน ก.ล.ต. สรุปภาพรวมบัญชีซื้อขายที่ Active ในช่วงต้นเดือน 'เมษายน' ปี 2567
ซีอีโอ Crypto.com ชี้! Bitcoin กำลังอยู่ในจุดเริ่มต้น ของการเข้าสู่ช่วงขาขึ้น
พบผู้ถือ Memecoin เกินกว่าครึ่ง ไม่ได้รับผลกระทบ จากการปรับตัวของตลาด
 วาฬหน้าใหม่ ครอบครอง Bitcoin รวมกันไปแล้วถึง 1.8 ล้าน BTC