แกะเอกสารล้มละลาย! ชี้ Celsius กำลังประสบปัญหา 'โคตรบิ๊ก'
เอกสารยื่นล้มละลายของเซลเซียส “อดีต” ผู้ให้กู้ Crypto รายใหญ่ที่สุด เผยให้เห็นปัญหาที่แท้จริงที่ทำพวกเขาล้ม โดยระบุว่างบประมาณของพวกเขามีการขาดดุลประมาณ 1.2 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งหนี้สินส่วนใหญ่มาจาก ‘ลูกค้า’
เอกสารยื่นล้มละลายของเซลเซียส “อดีต” ผู้ให้กู้ Crypto รายใหญ่ที่สุด เผยให้เห็นปัญหาที่แท้จริงที่ทำพวกเขาล้ม โดยระบุว่างบประมาณของพวกเขามีการขาดดุลประมาณ 1.2 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งหนี้สินส่วนใหญ่มาจาก ‘ลูกค้า’
แม้มหากาพย์ของเซลเซียส (Celsius: CEL) “อดีต” แพลตฟอร์มการเงินแบบกระจายอำนาจที่เป็นผู้ให้กู้ Crypto รายใหญ่ที่สุด นั้นได้เดินทางมาถึงตอนจบแล้วก็ตาม แต่ทว่าสิ่งที่ถูกปิดบังซ่อนเร้นภายหลังฉากอันสวยหรูของแพลตฟอร์มก็ยังถูกเผยให้สังคมได้รับรู้มากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่มีท่าทีว่าจะหยุด
ทั้งนี้ ในการยื่นคำร้องขอล้มละลายของเซลเซียสครั้งล่าสุดเองก็ได้เผยให้เห็นถึงเรื่องหน้าประหลาดใจที่ถูกซ่อนเอาไว้โดยแพลตฟอร์มผู้ให้กู้ Crypto รายนี้
ความจริงถูกเปิดเผย ในเอกสารยื่นล้มละลายของเซลเซียส
ภายในเอกสารการล้มละลายในบทที่ 11 ที่ลงนามโดย Alex Mashinsky ซีอีโอของเซลเซียส เปิดเผยว่าบริษัทมีสินทรัพย์ที่ถือครองอยู่ประมาณ 4.3 พันล้านดอลลาร์ และมีหนี้สินอีก 5.5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งคิดเป็นการขาดดุลกว่า 1.2 พันล้านดอลลาร์เลยทีเดียว
โดยสำหรับสินทรัพย์ที่เซลเซียสถือครองอยู่นั้น พวกเขาระบุว่ามีโทเค็น CEL มูลค่า 600 ล้านดอลลาร์ อุปกรณ์ที่ใช้ทำการขุดคริปโตมูลค่า 720 ล้านดอลลาร์ และอีก 1.75 พันล้านดอลลาร์เป็นคริปโต ได้แก่ 410,421 Lido Staked ETH (stETH) และโทเค็นอื่น ๆ รวมมูลค่าประมาณ 479 ล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม ในเอกสารยังระบุอีกด้วยว่าการขาดดุล 1.2 พันล้านดอลลาร์นั้นส่วนใหญ่แล้วเป็นผลมาจากเหล่าผู้ใช้ทั้งสิ้น โดยบัญชีเงินฝากของผู้ใช้ที่ติดหนี้เซลเซียสมี มูลค่ารวมสูงถึง 4.72 พันล้านดอลลาร์
นอกจากนี้เหล่าผู้เล่นคริปโตก็ยังมองเห็นอีกความไม่ชอบมาพากลของการรายงานในครั้งนี้ของพวกเขา โดยเซลเซียสได้ชี้แจงว่ามูลค่าของโทเค็น CEL ในมือของพวกเขามีอยู่ 600 ล้านดอลลาร์ แต่ทว่าจากข้อมูลของ CoinGecko มูลค่าตลาดทั้งหมดสำหรับ CEL กลับอยู่ที่ 321 ล้านดอลลาร์เท่านั้น
เซลเซียสส่อเจตตนาเทผู้ใช้
Cory Klippstein ผู้ก่อตั้งบริษัท Swan Bitcoin รู้สึกเสียใจกับการตัดสินใจของ Celsius และ Voyager ในการยื่นขอความคุ้มครองในการล้มละลายบทที่ 11 แทนที่จะเป็นการยื่นตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ลงทุนหลักทรัพย์ (SIPA)
Klippsten ให้ข้อมูลว่าการยื่นล้มละลายภายใต้ พรบ. SIPA จะเปลี่ยนความเป็นเจ้าของทรัพย์สินของบริษัทไปยังลูกค้าซึ่งอย่างน้อยพวกเขาก็มีโอกาสจะได้รับส่วนหนึ่งของเงินฝากคืน
อย่างไรก็ตามกระบวนการล้มละลาย ภายใต้บทที่ 11 กลับแตกต่างออกไป เพราะเป็นการบริษัทยื่นขอความคุ้มครองที่เรียกร้องความเป็นเจ้าของทรัพย์สินของตนทั้งหมด ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงมากที่เหล่านักลงทุนตาดำ ๆ จะถูกเชิดเงินหนี
Frances Coppola นักเศรษฐศาสตร์ชื่อดังก็มองเห็นเรื่องนี้ไปในทิศทางเดียวกัน โดยเธอได้พูดถึงข่าวร้ายที่อาจเกิดขึ้นกับเหยื่อของ Celsius และอธิบายว่าเธอเชื่ออย่างสุดใจว่าผู้ฝากเงินของ Celsius "จะไม่ได้รับเงินคืน" แน่นอน
Celsius ยืนกรานว่ารอดแน่!
เอกสารที่ถูกลงนามโดย Alex Mashinsky ยังมีเนื้อหาตอนหนึ่งระบุถึงแนวทางในการเอาตัวรอดจากวิกฤตในครั้งนี้ โดยกล่าวว่าบริษัทสามารถขาย Bitcoin (BTC) ที่ขุดได้จากเหมือง Celsius Mining Bitcoin เพื่อ "สร้างสินทรัพย์ที่เพียงพอ" ในการชำระคืนเจ้าหนี้อย่างน้อยหนึ่งราย ทั้งยังเป็นรายได้ให้กับบริษัทในอนาคต ซึ่งทางบริษัทคาดการณ์ว่าจะสามารถชุด BTC ได้ประมาณ 15,000 BTC จนถึงปี 2023
