ข่าวธุรกิจ

ลูกค้าบีทีเอสลุ้นใช้ JFin Coin ชำระค่าบริการ

Jfinbts.jpg

บีทีเอส ทุ่มเงินเกือบ 2 หมื่นล้าน เข้าถือหุ้นใน JMART หวังพัฒนาธุรกิจ และ เล็งให้ลูกค้าใช้ JFin Coin ชำระค่าบริการได้ภายใน 1 – 2 เดือนหลังเทศกาลปีใหม่

ในช่วงเวลานี้คงไม่มีสิ่งใดที่จะได้รับความสนใจจากแวดวงต่าง ๆ ได้มากเท่ากับคริปโตเคอเรนซีอีกแล้ว จะเห็นได้ว่าหลากหลายประเทศทั่วโลกต่างก็เริ่มให้ความสำคัญกับการพัฒนาธุรกิจ และ เทคโนโลยีเพื่อนำมารองรับการใช้งานสกุลเงินดิจิทัลกันเป็นจำนวนมาก ไม้เว้นแม้แต่ประเทศไทยของเราที่ล่าสุดเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน ที่ผ่านมานายกวิน กาญจนพาสน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) เผยว่าบริษัทกำลังเตรียมผนึกกำลังร่วมกับ บมจ.เจ มาร์ท (JMART) เพิ่มทางเลือกการชำระเงินรูปแบบใหม่ที่ทันสมัยให้กับลูกค้า ด้วยการใช้ JFin Coin ชำระค่าบริการต่าง ๆ ในเครือภายในช่วงต้นปี 2022 ได้แก่ การใช้เหรียญในการชำระค่าบริการธุรกิจโรงแรมในเครือ, การใช้เหรียญเพื่อเติมเงินในบัตรแรบบิทในการชำระค่าเดินทางด้วยรถไฟฟ้าของ BTS หรือ การชำระราคาสินค้า เป็นต้น

นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. JMART หนึ่งในผู้เข้าร่วมงานสัมนา Battle Strategy หัวข้อ  How "Digital Tokens" Will Sharpen the Ultimate Success of Business ที่ถูกจัดขึ้นโดย SCB และ ข่าวหุ้นธุรกิจ ได้ออกมายอมรับว่าทางบริษัทได้ให้ความสนใจกับระบบนิเวศของระบบขนส่งมวลชนในประเทศเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีจำนวนผู้ใช้งานในประเทศหลายล้านรายด้วยกัน

JFin Coin คืออะไร

Jfin 1024x563.png
ราคา JFIN ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา
source : CoinmarketCap

การใช้ JFin Coin ชำระค่าบริการช่วยกระตุ้นยอดขายให้กับองค์อย่างมหาศาล

นายธนวัฒน์ เลิศวัฒนารักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เวนเจอร์ส จำกัด (JVC) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ Jaymart ที่ได้ดำเนินการออกโทเคนดังกล่าวระบุว่าปัจจุบันมี Wallet ที่ใช้ JFIN ได้เพิ่มขึ้นมาจากเมื่อ 4 ปีที่แล้วที่มีอยู่เพียง 2,000 ใบเป็นจำนวนกว่า 500,000 ใบด้วยกัน จากผลกระทบการเกิด Network Effect นอกจากนี้เขายังได้เปิดเผยเพิ่มเติมว่า JFIN ที่ถูกใช้งานเฉพาะในกลุ่ม Jaymart มีอยู่ราว 3 ล้าน JFIN ด้วยกัน ซึ่งได้สร้างยอดขายให้กับทางองค์กรมากกว่า 700 ล้านบาทอีกด้วย

บีทีเอสยอมรับว่าต้องการปรับธุรกิจตามไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่

1k8pibirhkq 1024x628.jpg

นอกจากนี้ทางด้านนายสุรยุทธ ทวีกุลวัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่ สายการเงิน BTS ได้ออกมาเผยถึงสาเหตุในการร่วมมือกับบริษัทในเครือ Jaymart เนื่องจากเล็งเห็นถึงโอกาสในการทำธุรกิจร่วมกัน ซึ่งเขายอมรับว่าตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโรค COVID – 19 ธุรกิจขององค์กรก็ตกอยู่ในสภาวะหยุดนิ่ง และ สร้างความเสียหายพอสมควร ซึ่งทางบริษัทมองว่าควรเปลี่ยนแนวทางการทำธุรกิจตามกระแสของโลกที่เปลี่ยนไปอาจจะเป็นเห็นทางรอดขององค์กร โดยเขาได้กล่าวทิ้งท้ายเพิ่มเติมถึงอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้บีทีเอสก้าวลงมามีบทบาทสำคัญในวงการสกุลเงินดิจิทัลว่า

“เราอยากปรับตัวไปสู่ตลาดไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ เรามีฐานแรบบิท 4-5 ล้านคน คาดว่าน่าจะมี 2-3 ล้านคนที่น่าจะเปลี่ยนมาใช้เหรียญเติมเงิน ซึ่งการปรับตัวครั้งนี้ของเราส่วนหนึ่งเป็นผลจากโควิด รวมทั้งพฤติกรรมของคนที่เปลี่ยนแปลงไป”

อ้างอิงจาก The Standard
ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต

บทความที่เกี่ยวข้อง

วาฬยุค Satoshi เคลื่อนไหว! โอน Bitcoin มูลค่า 4.6 พันล้านดอลลาร์หลังถือเงียบ 14 ปี คาดเตรียมขายทำกำไร
ต้นทุนเฉลี่ยของนักเก็งกำไรพุ่งทะลุ 100,000 ดอลลาร์ เสริมแนวรับให้ Bitcoin ขณะตลาดเริ่มย่อตัว
รัฐบาลภูฏานโอนย้าย Bitcoin มูลค่า 74 ล้านดอลลาร์เข้าสู่ Binance ท่ามกลางราคาที่พุ่งทำจุดสูงสุดใหม่
Bitcoin แซง Amazon ขึ้นแท่นสินทรัพย์อันดับ 5 ของโลก หลังมูลค่าตลาดทะลุ $2.4 ล้านล้าน