รายได้ DApps ของ Axie Infinity และ dYdX แซงหน้าแพลตฟอร์ม NFT ยอดฮิตอย่าง OpenSea
แพลตฟอร์มเกมแบบกระจายอำนาจเริ่มได้รับความสนใจมากขึ้น โดย Axie Infinity แพลตฟอร์มเกมยอดฮิต ทำรายได้สูงสุดจาก Dapps ในช่วงเดือนที่ผ่านมา
แพลตฟอร์มเกมแบบกระจายอำนาจเริ่มได้รับความสนใจมากขึ้น โดย Axie Infinity แพลตฟอร์มเกมยอดฮิต ทำรายได้สูงสุดจาก Dapps ในช่วงเดือนที่ผ่านมา
ในขณะที่ความนิยมของ Non-fungible tokens (NFT) ลดลงเล็กน้อย แพลตฟอร์มเกมแบบกระจายอำนาจเริ่มได้รับความสนใจมากขึ้น โดย Axie Infinity แพลตฟอร์มเกมยอดฮิต ทำรายได้สูงสุดจาก Dapps ในช่วงเดือนที่ผ่านมา
Colin Wu นักข่าวชื่อดังชาวจีนด้านคริปโตตั้งข้อสังเกตว่า “ในช่วง 30 วันที่ผ่านมา Axie Infinity ยังคงเป็นผู้นำโดยมีรายได้ถึง 190.9 ล้านดอลลาร์จาก Dapps จากความนิยมที่ลดลงในตลาด NFT ขณะที่ dYdX แซงหน้า OpenSea โดยมีรายได้ 30 วันที่ 66.9 ล้านดอลลาห์”
In the past 30d, Axie Infinity continued to lead the way with $190.9 million in revenue from Dapps. With the cooling of the NFT market, dYdX surpassed OpenSea with 30d $66.9million in agreement income.
Colin Wu
Axie Infinity (AXS) ได้ปรับตัวขึ้นอย่างมากในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา โดยเพิ่มขึ้นมากกว่า 200% เลยทีเดียว และเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โทเค็น AXS แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (All-time high) ที่ 162 ดอลลาห์ เนื่องจาก Facebook ประกาศการรีแบรนด์เพื่อผลักดัน Metaverse
AXS หรือ Axie Infinity Shards เป็นโทเค็นของเกมส์ Axie Infinity เกมส์บล็อกเชนของอีเธอเรียมที่สร้างขึ้นบนระบบ ERC-20 เกมส์นี้เป็นเกมส์ที่มีโมเดลแบบ play-to-earn (P2E) และการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างเกมส์ NFT และคริปโตเคอร์เรนซี่ ทำให้ความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ความนิยมของ Axie Infinity ที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในปีนี้ ทำให้ Axie มีรายได้จากการขายเพิ่มขึ้นจาก 100,000 ดอลลาห์ในเดือนมกราคมสู่ 2 พันล้านดอลลาห์ Axie Infinity ยังกลายเป็น NFT collectibles อันดับหนึ่งของโลกในตอนนี้ โดยมีเทรดเดอร์มากกว่า 6 แสนรายที่ซื้อขาย Axie Infinity NFTs โดยนับเป็นจำนวนธุรกรรมมากกว่า 4.88 ล้านรายการ และยังมีผู้ใช้งานมากกว่า 1.5 ล้านรายต่อวันเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม โทเค็นคริปโตหลายตัวที่เกี่ยวข้องกับเกมและ metaverse หลังจากการรีแบรนด์ Facebook ได้เพิ่มขึ้นอย่างมาก Decentraland (MANA) ก็พุ่งสูงขึ้นถึง 300% ในช่วงสี่วันที่ผ่านมา หลังจากการประกาศของบริษัทโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่
แม้ว่าปริมาณการซื้อขายและรายได้ของ NFT จะลดลง แต่ความนิยมก็เพิ่มขึ้นอย่างมากในปีนี้ และความคืบหน้าเกี่ยวกับ metaverse ล่าสุดอาจกระตุ้นความต้องการ NFT ได้มากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
William Quigley ผู้ร่วมก่อตั้ง Stablecoin อย่าง Tether กล่าวว่า NFT สามารถให้รูปแบบรายได้ที่แข็งแกร่งสำหรับ metaverse เขายังตั้งข้อสังเกตว่า metaverse จะเปลี่ยนวิธีที่เราโต้ตอบกันอย่างมากในโลกเสมือนจริง
นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของโลกใหม่ และเราอาจได้เห็นการทำงานร่วมกันระหว่างโลกของคริปโต และ metaverse ในอนาคตอันใกล้ก็เป็นได้