เผยตู้เอทีเอ็มสเปนลดน้อยลง คาดผลักดันการชำระเงินด้วยสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างเต็มที่

ตู้เอทีเอ็มในประเทศสเปนนั้น ล่าสุดเริ่มมีแนวโน้มลดน้อยลงเรื่อย ๆ โดยสื่อในประเทศได้มีการรายงานความเคลื่อนไหวครั้งนี้เอาไว้อย่างน่าสนใจ

ตู้เอทีเอ็มสเปนลดน้อยลงอย่างมีนัยสำคัญ

แนวโน้มการมีอยู่ของตู้เอทีเอ็มในประเทศสเปนนั้น ลดน้อยลงนับตั้งแต่ปี 2002 เป็นต้นมา ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเป็นการลดต้นทุนการให้บริการและการลดลงของตู้เอทีเอ็มนั้น มองได้ว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้อุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลมีการขยายตัวในประเทศมากขึ้น

ในช่วงที่ผ่านมาจำนวนตู้เอทีเอ็มที่มีการจดทะเบียนอย่างเป็นทางการนั้น มีมากที่สุดในช่วงปี 2008 ซึ่งเป็นช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่ในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยที่เวลานี้จำนวนตู้เอทีเอ็มที่พร้อมใช้บริการนั้น มีอยู่ถึง 61,714 เครื่องด้วยกัน

ปัจจุบันโครงข่ายตู้เอทีเอ็มที่สามารถใช้งานได้นั้นมีอยู่ราว ๆ 48,081 เครื่องด้วยกัน สอดคล้องกับสื่อในประเทศที่รายงานว่า ตอนนี้ทางธนาคารกลางของประเทศสเปนได้มีการลดตู้เอทีเอ็ม ด้วยเหตุผลเรื่องของลดต้นทุนในอุตสาหกรรมธนาคาร พร้อมกับผลักดันการชำระเงินในรูปแบบของสกุลเงินดิจิทัลและพัฒนาการประมวลผลของระบบธนาคารให้ดียิ่งขึ้น

เดินหน้าผลักดันกฎหมายควบคุมคริปโต

อย่างไรก็ตามในรายงานได้ระบุว่า แม้ตอนนี้จำนวนตู้เอทีเอ็มลดน้อยลง แต่ความเคลื่อนไหวในการทำธุรกรรมผ่านทางตู้เอทีเอ็มนั้น มีมากกว่า 1 แสนครั้ง ซึ่งเพิ่มมากถึง 1.04 % เมื่อเทียบกับช่วงปีที่ผ่านมา

รัฐบาลของประเทศสเปนได้มีการให้เหตุผลเรื่องการลดต้นทุนการทำธุรกรรมในแต่ละครั้ง และสอดคล้องกับในช่วงเวลาปีที่ผ่านมาที่ทางสเปนได้เดินหน้าผลักดันกฎหมายต่อต้านการฉ้อโกง โดยมีวัตถุประสงค์ในการควบคุมสินทรัพย์ประเภทคริปโตเคอร์เรนซี่ และควบคุมการชำระเงินในช่องทางการทำธุรกรรมในแต่ละรูปแบบ

ในทางกลับกันสื่อได้รายงานว่า ตอนนี้เมืองต่าง ๆ ในประเทศสเปน โดยเฉพาะพื้นที่แถบชนบทนั้น ยังไม่เข้าถึงการใช้สินทรัพย์ดิจิทัลมากเท่าที่ควร โดยที่คนส่วนใหญ่ในชนบทมีการใช้เงินสดในการซื้อสินค้าและบริการในแต่ละวัน