อัตราการยอมรับ Crypto ของไทย โตกว่า 588%
ตลาดคริปโตของพี่ไทยนั้นเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ปีที่แล้ว จนถึงปัจจุบัน มีปริมาณการซื้อขาย Crypto ในประเทศทยานขึ้นไปแตะ 1.15 แสนล้านบาท! ซึ่งงานนี้ ก.ล.ต. ไม่อยู่เฉยอย่างแน่นอน
ตลาดคริปโตของพี่ไทยนั้นเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ปีที่แล้ว จนถึงปัจจุบัน มีปริมาณการซื้อขาย Crypto ในประเทศทยานขึ้นไปแตะ 1.15 แสนล้านบาท! ซึ่งงานนี้ ก.ล.ต. ไม่อยู่เฉยอย่างแน่นอน
บอกได้เลยว่า ณ ขณะนี้พี่ไทยก็ใช่ย่อยในวงการ Cryptocurrency เพราะดูเหมือนว่าอัตรการยอมรับ Crypto นั้นเฟื่องฟูเป็นอย่างมากในบ้านเรา ซึ่งทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ในประเทศหรือ ก.ล.ต. ได้เป็นผู้ออกมารายงานการเติบโตเหล่านี้ด้วยตัวเอง โดยระบุว่าจากการประเมินปริมาณการซื้อขายของ Crypto ในประเทศ พบว่าโตขึ้นเกือบ 600% ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ปีที่ผ่านมา โดยข้อมูลข้างต้นนี้ยังถูกเผยแพร่สู่สายตาชาวโลกผ่านสำนักข่าวชื่อดังอย่าง Bloomberg อีกด้วย
ปริมาณการซื้อขายรวมของทุกบริการด้านการแลกเปลี่ยน Crypto ที่ได้รับอนุญาตของไทยนั้นเพิ่มขึ้นจาก 574.5ล้านดอลลาร์ ในเดือนพฤศจิกายน กลายเป็น 3.96 พันล้านดอลลาร์ในเดือนพฤศจิกายน หรือคิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 1.15 แสนล้านบาท!
คุณแบงค์ อธิชนัน พูลเกษ ผู้ร่วมก่อตั้ง Bitkub บริษัทแลกเปลี่ยนอันดับต้น ๆ ของไทย กล่าวกับ Bloomberg ว่าปริมาณการซื้อขายโดยประมาณบนแพลตฟอร์มของเขาเพิ่มขึ้น 40% ระหว่างเดือนมกราคม ถึง กุมภาพันธ์ ทั้งนี้คุณแบงค์ยังระบุว่าปริมาณการซื้อขายบน Bitkub คิดเป็น 90% ของกิจกรรมการค้า และบริการในท้องถิ่น ด้วยฐานลูกค้ากว่า 300,000 ราย
แต่ทว่า แม้ปริมาณการซื้อขายของ Crypto ที่ได้รับอนุญาตจะเพิ่มขึ้นก็ตาม แต่การซื้อขายแบบเพียร์ทูเพียร์ของไทยกลับไม่เป็นเช่นนั้น
ในขณะที่ Bitcoin ซึ่งตีเป็นมูลค่าประมาณ 650,000 ดอลลาร์ได้ถูกซื้อขายกันทุกสัปดาห์บนตลาด P2P ชั้นนำของโลกอย่าง Localbitcoins และ Paxful ในช่วงเดือนพฤศจิกายน แต่ปริมาณของเดือนกุมภาพันธ์มีความผันผวนระหว่างประมาณ 700,000 ถึง 1 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นระหว่าง 10% ถึง 50% ในทางกลับกัน ช่วงเดือนมีนาคมปริมาณการซื้อขาย Bitcoin P2P ของไทยลดลงนั้นจาก 950,000 ดอลลาร์เหลือประมาณ 600,000 ดอลลาร์
นอกเหนือจากปริมาณการซื้อขายคริปโตที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วแล้ว การเติบโตของ DeFi ในประเทศไทยก็มาแรงไม่แพ้กัน โดยจากรายเมื่อปลายเดือนมีนาคมของทาง The Defiant พบว่าไทยนั้นรั้งอันดับอันดับที่สองของโลกในด้านปริมาณการค้นหาคำว่า "การเงินแบบกระจายอำนาจ" ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา
ทั้งนี้เพื่อตอบสนองความนิยมที่เพิ่มขึ้นของ Crypto ทางสำนักงาน ก.ล.ต. ของประเทศไทยได้เสนอหลักสูตรการฝึกอบรม และการทดสอบเพื่อกันไม่ให้เหล่านักเทรดที่ไม่มีประสบการณ์ในการลงทุน พลาดเข้ามาเสียรู้ในตลาดแห่งนี้ ซึ่งนโยบายดังกล่าวนั้นคาดว่าจะเข้ามาแทนที่การการกำหนดรายได้ขั้นต่ำ 1 ล้านบาม ต่อปีสำหรับผู้ค้า Crypto ในประเทศ