Visa, Mastercard และ PayPal เปิดศึกชิงพื้นที่ในตลาดคริปโต
แม้ว่า Visa กับ Mastercard กำลังประสบปัญหาหนี้สินที่เพิ่มมากขึ้น บวกกับการที่ผู้คนเริ่มใช้บัตรเครดิตน้อยลง แต่พวกเขากำลังซุ่มที่จะเดินหมากเกมการเงินครั้งสำคัญ
แม้ว่า Visa กับ Mastercard กำลังประสบปัญหาหนี้สินที่เพิ่มมากขึ้น บวกกับการที่ผู้คนเริ่มใช้บัตรเครดิตน้อยลง แต่พวกเขากำลังซุ่มที่จะเดินหมากเกมการเงินครั้งสำคัญ
แม้ว่า Visa กับ Mastercard กำลังประสบปัญหาหนี้สินที่เพิ่มมากขึ้น บวกกับการที่ผู้คนเริ่มใช้บัตรเครดิตน้อยลง แต่พวกเขากำลังซุ่มที่จะเดินหมากเกมการเงินครั้งสำคัญ
โชคดีที่บริษัท Visa มีผลกำไรที่เติบโตกว่าที่คาดเอาไว้ นั่นก็หมายความว่า แนวโน้มการจับจ่ายใช้สอยบนร้านค้าออนไลน์เติบโตมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง บวกกับการที่ผู้คนยังคงให้ความสำคัญกับการชำระเงินผ่านบัตรเครดิตอยู่ จึงทำให้ทั้ง Visa กับ Mastergard เริ่มรุกเกมในส่วนของตลาดคริปโตเคอร์เรนซี่มากขึ้น
จากกระแสที่กลุ่มอุตสาหกรรมคริปโตเติบโตมากขึ้น ทำให้ Visa ตัดสินใจที่จะเดินเกมรุกเพื่อให้ผลกำไรเติบโตขึ้น โดย Visa ได้จับมือร่วมกับ Blockfi ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการซื้อขายกระดาษคริปโต ทำให้ Visa กลายเป็นบริษัทบัตรเครดิตเจ้าแรกที่ให้การสนับสนุนการให้เงินรางวัลด้วยคริปโต
เช่นกันทางบริษัทได้ประกาศว่า กำลังมีแนวคิดที่จะดึงหุ้นส่วนเข้ามาพัฒนาระบบทำธุรกรรมให้ดียิ่งขึ้น
Mastercard เองก็เริ่มที่จะให้ความสำคัญกับการซื้อขายตลาดคริปโตเคอร์เรนซี่มากขึ้น พวกเขาได้เปิดตัวบัตรเครดิตที่มีรางวัลล่อใจด้วยเงินดิจิทัล (เป็นบิทคอยน์หรือเหรียญชนิดอื่น ๆ) ทำให้ผู้ใช้เริ่มมีการเปิดบัญชีแบบเดียวกันนี้มากขึ้น
ส่วน PayPal เองก็เริ่มขยับหมากเข้าสนามคริปโตเคอร์เรนซี่เช่นกัน โดย PayPal ได้จับมือร่วมกับ Venmo บริการแพลตฟอร์มแบบ P2P โดยที่ผู้ใช้แอป Venmo สามารถซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซี่ในกระเป๋าเงินดิจิทัลได้ ทำให้สินทรัพย์ดิจิทัลมีเงินสะพัดเข้ามาจำนวนมาก