ข่าว Bitcoin

กระทรวงการคลังสหรัฐฯ เสนอกฎระเบียบใหม่ เล็งกระทบผู้ใช้ Bitcoin

Btc Regulate.png.jpg

สหรัฐฯ มีการเสนอให้ผู้ถือวอลเล็ทเก็บ Bitcoin ต้องทำ KYC คาดเพื่อให้รัฐสามารถติดตามธุรกรรมได้ง่ายขึ้น

CEO ของ Coinbase นาย Brian Armstrong ได้เปิดเผยว่าทางการสหรัฐกำลังเตรียมที่จะสร้างกฎระเบียบที่อาจส่งผลกระทบต่อ Bitcoin ในอนาคต เนื่องจากล่าสุดทางฝ่ายบริหารของ Trump กำลังวางแผนที่จะใช้กฎ KYC บังคับสำหรับผู้ที่มีวอลเล็ทเก็บ Bitcoin

ผู้ใช้งานวอลเล็ทต้องยืนยันตัวตน

วอลเล็ทดิจิทัลที่ผู้ใช้งานเอาไว้ใช้ถือเหรียญคริปโตเองนั้นรวมถึงกระเป๋าเงินดิจิทัลแบบโอเพนซอร์สเช่น Bitcoin Core และ Metamask ด้วย รวมถึงแพลตฟอร์ม DeFi อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์และ paper wallets (วอลเล็ทในรูปแบบกระดาษ) ด้วย ซึ่งด้าน CE ของ Coinbase ก็ได้โพสต์ทวิตเตอร์ถึงเรื่องนี้

“เราคิดว่ากฎระเบียบดังกล่าวต้องการให้สถาบันการเงินเช่น Coinbase ตรวจสอบผู้รับ / เจ้าของกระเป๋าเงินโดยรวบรวมข้อมูลการระบุตัวตนของฝ่ายนั้นก่อนที่จะสามารถส่งการถอนเงินออกจากวอลเล็ทดิจิทัลของตัวเองได้”

ในเดือนมิถุนายน 2019 Financial Action Task Force (FATF) ได้ออกไกด์ไลน์สำหรับผู้ให้บริการสินทรัพย์เสมือน (VASP) ซึ่งกำหนดให้ธุรกิจคริปโตต้องขอข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้ก่อนจึงจะสามารถส่งและรับสินทรัพย์ดิจิทัลได้

ทั้งนี้กฎระเบียบด้าน KYC และ AML นี้มีการนำไปใช้อย่างกว้างขวางทั่วทั้งอุตสาหกรรม Bitcoin และ Cryptocurrency รัฐบาลได้บังคับให้บริษัท Exchange ด้านคริปโตหลายแห่งบังคับให้ผู้ใช้งานต้อง KYC ต้องลงทะเบียนเพื่อที่จะทำให้สามารถเข้าถึงรายละเอียดการทำธุรกรรมของผู้ใช้บริษัท Exchange เหล่านั้นได้

อย่างไรก็ตามสำหรับกระเป๋าเงินดิจิทัลที่เอาไว้ถือ Bitcoin หรือเหรียญคริปโตอื่น ๆ ยังไม่จำเป็นต้อง KYC  ซึ่งเวลาที่เจ้าหน้าที่จะติดตามทำธุรกรรมนั้นก็เป็นไปค่อนข้างยาก

หน่วยงานกำกับดูแลต้องการการปฏิบัติตามแนวทาง FATF อย่างชัดเจนมากขึ้นโดยต้องการข้อมูลเกี่ยวกับกระเป๋าเงินดิจิทัลเก็บคริปโตทั้งงหมดไม่ใช่เฉพาะของแพลตฟอร์มเช่น Coinbase

เนเธอร์แลนด์ได้บังคับใช้กฎคล้าย ๆ กันโดยอ้างถึงความสำคัญของกฎหมาย Sanction Act ปี 1970

ข้อกังวลด้านกฎข้อบังคับส่งผลกระทบต่อราคาตลาดคริปโต

หลังจากมีประกาศดังกล่าวขึ้นมาก็มีผู้คนกลุ่มหนึ่งรู้สึกกังวลเนื่องจากหากกฎระเบียบนี้ถูกนำไปบังคับใช้ ความเป็นส่วนตัวและการไม่เปิดเผยตัวตนของ Bitcoin ก็เป็นอันจบสิ้น

ด้านนักลงทุนคุณ Balaji Srinivasan เรียกร้องให้ต่อต้านข้อเสนอร่างกฎระเบียบดังกล่าว เขากล่าวว่า:

“กฎระเบียบต่อต้านคริปโตที่เสนอโดย Steven Mnuchin ถือเป็นการตัดสิทธิทางการเงินอีกรูปแบบหนึ่ง มันเป็นภัยต่อผู้ที่ไม่มี ID และมันมีช่องโหว่ที่ทำให้นักแฮ็กสามารถเข้าถึงข้อมูลได้มากขึ้น”

หลังมีข่าวนี้เกิดขึ้น ตลาดคริปโตก็ราคาร่วง ซึ่งบางคนก็เชื่อว่าข่าวนี้ส่งผลกระทบต่อราคาของ Bitcoin ทำให้มันร่วงไปที่ระดับ 16,320 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตามในเวลาที่เขียนบทความนี้ราคา Bitcoin ก็สามารถพลิกกลับมาได้แล้วโดยมาอยู่ที่ระดับ 17,182 ดอลลาร์ อ้างอิงจาก CoinGecko

ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต
แท็ก:
ข่าวต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง

Bitcoin ทรงตัวเหนือ 90,000 ดอลลาร์ แต่ดัชนีความโลภเริ่มแผ่ว ท่ามกลางความไม่แน่นอนของตลาด
โมเดลการเติบโตแบบ 'Power Law' คาดการณ์ราคา Bitcoin พุ่งแตะ 200,000 ดอลลาร์ในปี 2025
ARK Invest ปรับคาดการณ์ราคาขาขึ้นของ Bitcoin ปี 2030 แตะ 2.4 ล้านดอลลาร์ ชูบทบาท “ทองคำดิจิทัล” และแรงหนุนจากสถาบัน
Spot Bitcoin ETFs ในสหรัฐฯ ดันเงินไหลเข้าแตะ 3 พันล้านดอลลาร์เป็นสัปดาห์แรกในหลายเดือน