เปิด 3 ข้อผิดพลาดที่นักลงทุนใน DeFi ควรเลี่ยง!

เชื่อว่าหลายคนคงเคยประสบปัญหากการขาดทุนจากการลงทุนในอุตสาหกรรมคริปโต หรือ DeFi ไปไม่มากก็น้อย โดยในกรณีที่แย่ที่สุดเลยก็คือการไม่ได้อะไรกลับมาเลยในการลงทุนครั้งนั้น ไม่ว่าจะทั้งเงินต้นหรือผลตอบแทน

แต่ทั้งนี้ก็ไม่ได้หมายความว่า อุตสาหกรรมคริปโตหรือ DeFi นั้นเป็นอุตสาหกรรมที่ไม่น่าลงทุนเลย เพราะก็มีหลายโครงการเช่นกันที่ประสบความสำเร็จอย่างมากและให้ผลตอบแทนกับนักลงทุนได้อย่างมหาศาลเช่นกัน

แล้วอะไรหล่ะ? ที่เป็นปัญหาที่ทำให้นักลงทุนหลายคนยังประสบปัญหาการขาดทุนได้อยู่ วันนี้ CryptoSiam จึงจะพามาดู 3 ข้อผิดพลาดที่นักลงทุนทั้งในอุตสาหกรรมคริปโต และ DeFi ควรเลี่ยง!

1. การค้นคว้าข้อมูลที่ไม่มากพอ

สิ่งสำคัญที่สุดของนักลงทุนคือการ 'ค้นคว้าด้วยตนเอง' หรือ 'Do your own research (DYOR)' เพราะหนึ่งในปัญหาที่ใหญ่ที่สุดสำหรับนักลงทุนนั่นก็คือการที่ในตลาดมีแต่ 'ผู้เชี่ยวชาญ' หรือ 'กูรู' ในโลกออนไลน์หลายแห่ง ที่จะคอยออกมาพูดโน้มน้าวให้นักลงทุนเข้าไปลงทุนกับโปรเจคที่พวกเขาเหล่านั้นเชียร์เท่านั้น จนทำให้นักลงทุนหลายคนตัดสินใจลงทุนในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้รู้ดีเกี่ยวกับมันมากพอ

ดังนั้น จึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างมากที่เราจะต้องทำการค้นคว้าข้อมูลของโปรเจคนั้นๆด้วยตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการใช้เครื่องมือวิเคราะห์ที่ใช้ได้ฟรีบนเว็บไซต์อย่าง Messari หรือ Coinmarketcap นอกจากนี้การเข้าไปอ่าน Whitepaper และทำความเข้าใจใน tokenomics ของโปรเจคก็เป็นเรื่องที่ดี ที่ทำให้เราได้เห็นมุมมอง ทั้งข้อดีและข้อเสียของโปรเจคนั้นได้มากขึ้นกว่าการคอยลงทุนตามที่กูรูแนะนำอย่างเดียว

ทั้งนี้ระหว่างการหาข้อมูล เราควรที่จะตอบคำถามทั้ง 3 ข้อนี้ให้ได้เสียก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุน

• อะไรคือปัญหาที่โปรเจคนี้จะเข้ามาแก้ไข?
• โปรเจคนี้ได้นำ เทคโนโลยี หรือ บริการที่เป็น 'นวัตกรรมใหม่' มาสู่ตลาดหรือไม่?
• สมาชิกทีมงานในโปรเจคนี้มีความน่าเชื่อถือมากแค่ไหน?

2. มีกลยุทธ์การบริหารความเสี่ยงดีไม่พอ

การลงทุนในโลก DeFi มักจะมีความผันผวนที่รุนแรง ดังนั้นการไม่มีกลยุทธ์ในการจัดการความเสี่ยงที่ดีพอ จะเป็นจุดเริ่มต้นของการขาดความสูญเสียอีกมากมายในชีวิตการลงทุนของคุณ

2.1 เข้าใจปัจจัย

สิ่งสำคัญคือสำหรับการลงทุน คือการเข้าใจว่า มีปัจจัยใดบ้าง? ที่จะส่งผลกระทบต่อราคาของสินทรัพย์ที่คุณลงทุน เช่นการเปลี่ยนแปลงด้านกฎระเบียบ หรือความเชื่อมั่นในตลาด ณ ตอนนั้น เพราะเมื่อคุณสามารถเข้าใจปัจจัยต่างๆได้อย่างถ่องแท้แล้ว สิ่งนี้จะช่วยให้นักลงทุนมีความพร้อมทั้งในด้านการวางแผนจัดการความเสี่ยงและเตรียมใจต่อเหตุการณ์ความผันผวนที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตดได้

2.2 เป้าหมาย

ทั้งนี้การจัดการความเสี่ยงนั้นจะไม่สมบูรณ์เลย หากเราขาด 'เป้าหมายการลงทุน' นักลงทุนทุกคนจะต้องตัดสินใจให้ได้ว่าสิ่งที่กำลังลงทุนอยู่นั้นมีเป้าหมาย ระยะสั้น หรือ ระยะยาว เพื่อนำสิ่งนี้ไปประกอบกับการวางกลยุทธ์ในการลงทุน

2.3 กระจายความเสี่ยง

อีกหนึ่งสิ่งสำคัญของการวางกลยุทธ์การลงทุน นั่นคือการกระจายความเสี่ยง ซึ่งทำได้จากการเลือกลงทุนในหลายๆโปรเจค(ที่ได้จากการค้นคว้าข้อมูลด้วยตนเอง) เนื่องจากเราไม่ทางรู้เลยว่าโปรเจคที่เรากำลังลงทุนอยู่นั้นจะเกิดปัญหาขึ้นตอนไหน และการทุ่มเงินลงทุนทั้งหมดของตัวเองไปที่โปรเจคเดียวนั้นเป็นสิ่งที่ผิดพลาดอย่างมหันต์

3. ข้อผิดพลาดระหว่างการทำธุรกรรม หรือการสูญเสีย Seed Phrase

โดยธรรมชาติแล้วการทำธุรกรรมบนบล็อกเชนนั้นจะไม่สามารถย้อนกลับได้ ไม่เหมือนกรณีที่ธนาคารสามารถดึงเงินกลับจากบัญชีผู้ได้หากตรวจพบว่ามีการใส่เลขบัญชีที่ไม่ถูกต้อง ในทางกลับกัน การทำธุรกรรมบนบล็อกเชนนั้นจะไมสามารถดึงเงินกลับได้เลย ดังนั้นควรตรวจสอบให้มั่นใจว่า Adress ที่เรากำลังจะทำธุรกรรมด้วยนั้นถูกต้องแล้วจริงๆ

ข้อผิดพลาดอีกหนึ่งข้อที่เราควรหลีกเลี่ยง คือการเปิดเผย Private Key ของตัวเอง เนื่องจากในโปรโตคอลของ DeFi นักลงทุนต้องใช้ Private Key ในการเข้าถึงสินทรัพย์ของตัวเอง นั่นหมายความว่าหาก Private Key ตกไปอยู่ในมือของบุคคลอื่นเมื่อใด เท่ากับว่าบุคคลอื่นก็สามารถเข้าถึงสินทรัพย์นั้นได้เช่นกัน

ดังนั้นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับการลงทุนใน DeFi นั่นก็คือการปกป้อง Private Key ของตัวเอง โดยการไม่เปิดเผยมัน ทั้งในพื้นที่สาธารณะ โซเชียลมีเดีย หรือแม้แต่คนรู้จัก เพราะถึงแม้เราจะลงทุนได้เก่งและประสบความสำเร็จมากแค่ไหนก็ตามบนโลก DeFi สิ่งนี้จะไม่มีความหมายเลยหาก Private Key ของเราตกไปอยู่กับคนอื่นที่ไม่ใช่ตัวเราเอง