สรุปประเด็นสำคัญจากเซสชั่น '2023 Bitcoin ยังต้องดอยอีกนานไหม?' - เก็บตกงาน Bull Moon Party ครั้งที่ 2
สรุปประเด็นสำคัญ ในเซสชั่น '2023 Bitcoin ยังต้องดอยอีกนานไหม?' จากคุณแบงค์ I learn a lot ในงาน Bull Moon Party - The Next Bull RUN เมื่อวันพุธที่ผ่านมา
สรุปประเด็นสำคัญ ในเซสชั่น '2023 Bitcoin ยังต้องดอยอีกนานไหม?' จากคุณแบงค์ I learn a lot ในงาน Bull Moon Party - The Next Bull RUN เมื่อวันพุธที่ผ่านมา
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ในงาน Bull Moon Party - The Next Bull RUN ได้มีเซสชั่นหนึ่งที่น่าสนใจอย่างมากในหัวข้อ "2023 Bitcoin ยังต้องดอยอีกนานไหม?" โดยมีคุณแบงค์ แอดมินจากเพจ I learn a lot มาเป็นผู้บรรยาย โดยได้กล่าวถึง 4 ปัจจัยสำคัญที่นักลงทุนจะควรจับตามองดังนี้
1. อัตราเงินเฟ้อ (CPI)
คุณแบงค์ได้กล่าวว่าสาเหตุที่ราคา Bitcoin ขึ้นสูงเกิดจากการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบในสหรัฐ ในช่วงที่เกิด Pandemic ขึ้นระหว่างปี 2019-2020 ส่งผลให้ทรัพย์สินที่มีความเสี่ยงอย่าง หุ้น หรือ คริปโต ทำราคาสูงขึ้นอย่างติดจรวด แต่สิ่งที่ตามมาคือ 'เงินเฟ้อ' ที่แตะระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี (9.1%) และถึงแม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดกลับมาสู่สภาวะปกติแล้ว แต่เงินเฟ้อยังคงอยู่เหมือนเดิม ทำให้สหรัฐจำเป็นต้องมีการปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นอย่างเรื่อยๆ จึงส่งผลให้ BTC ผันผวนตาม
*ปัจจัยในเรื่องการกดเงินเฟ้อและการเพิ่มดอกเบี้ยยังคงอยู่ และอาจส่งผลให้บิทคอยน์ไม่สามารถปรับตัวได้อย่างสมบูรณ์แบบได้ในตอนนี้
2. BITCOIN 4 YEAR CYCLE
Bitcoin Halving ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญ โดยจากกราฟ BITCOIN 4 YEAR CYCLE ได้ทำนายเอาไว้ว่า BTC จะเริ่มทำราคาสูงขึ้นอีกรอบในอีก 1 ปี กับอีก 1 เดือนข้างหน้า และถึงแม้จะช่วงนี้ตลาดคริปโตจะมีการขึ้นลงอยู่บ้าง แต่คาดว่าตลาดจะยังคงจะไม่ Bull run ในเร็วๆนี้
3. รอให้คนในตลาดแพ้
อีกปัจจัยหนึ่งที่คุณแบงค์ยกขึ้นมาคือ 'ตลาดจะกลับตัวขึ้นหากนักลงทุนส่วนใหญ่แพ้ตลาด' โดยกราฟ NUPL (Net Unrealized Profit/Loss) ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการขาดทุนของนักลงทุนในตลาด เพราะหากคนในตลาดขาดทุนจนหมดก่อนจะเกิดการ Rebound ขึ้น ซึ่งโดยปกติแล้วสัญญาณนี้จะชัดเจนมากที่สุดเมื่อมีผู้ถือรายใหญ่ล้มอย่างเช่นกรณีของ Celcieus หรือ Three Arrow ที่เพิ่งจะล้มไป
4. ข้อมูลในเชิงกราฟเทคนิคต่างๆ
ถึงแม้ช่วงต้นปีที่ผ่านมา กราฟเทคนิคต่างๆอาจจะทำให้คนส่วนใหญ่คิดว่าตลาดเริ่มจะปรับตัวขึ้นแล้ว แต่ถ้าหากนำไปเปรียบเทียบกับกราฟของ BITCOIN 4 YEAR CYCLE ถือว่ายังไม่มีสัญญาณที่แรงมากพอจะการันตีได้ว่าตลาดกำลังจะเข้าสู่ขาขึ้นแล้วจริงๆ
สรุป
โดยส่วนตัวคุณแบงค์กล่าวว่าปีนี้ยังไม่ใช่ปีที่ราคา BTC ขึ้นอย่างหนักๆ แต่กำลังสะสมพลังเพื่อรอที่จะเพิ่มขึ้นอย่างหนักหน่วงในอนาคต คำแนะนำสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนในช่วงนี้คือการแบ่งเงินลงทุนเอาไว้ส่วนหนึ่งเผื่อไว้สำหรับความผันผวนที่อาจเกิดขึ้นได้ เพราะอาจมีปัจจัยอีกหลายอย่างที่เราคาดไม่ถึงที่อาจส่งผลต่อราคาบิทคอยน์ก็เป็นได้
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: การลงทุนมีความเสี่ยงสูง ดังนั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนการลงทุนทุกครั้ง
ข้อมูลในบทความนี้มีจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น Cryptosiam ไม่รับประกันความสมบูรณ์ ความถูกต้อง หรือความน่าเชื่อถือของข้อมูลดังกล่าว และไม่มีสิ่งใดในบทความนี้ที่ควรใช้เป็นคำแนะนำหรือชักชวน ให้ซื้อหรือขายคริปโต รวมทั้งการประเมินใดๆ ไม่มีข้อความใดในบทความที่ถือเป็นคำแนะนำทางกฎหมาย วิชาชีพ การลงทุน และ/หรือทางการเงิน และ/หรือคำนึงถึงความต้องการเฉพาะ และ/หรือข้อกำหนดของแต่ละบุคคล
Cryptosiam และบริษัทในเครือ ขอปฏิเสธความรับผิด หรือความรับผิดชอบทั้งหมดเกี่ยวกับเนื้อหาของบทความ และการดำเนินการใดๆ กับข้อมูลในบทความนั้น เป็นความเสี่ยงของผู้อ่าน และถือเป็นความเสี่ยงแต่เพียงผู้เดียว