แบงก์ชาติรัสเซียเตรียมเปิดตัวแพลตฟอร์มจำนองใช้ Blockchain
ธนาคารกลางของรัสเซียกำลังพัฒนาแพลตฟอร์มการจำนองระบบดิจิทัลโดยนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้งาน
ธนาคารกลางของรัสเซียกำลังพัฒนาแพลตฟอร์มการจำนองระบบดิจิทัลโดยนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้งาน
สถานการณ์โลกในปัจจุบันจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 มันได้เข้ามาเปลี่ยนวิถีชีวิตของคนให้ใช้งานเทคโนโลยีมากขึ้นกว่าเดิม ไม่ว่าคนนั้นๆ จะอยู่ในช่วงวัยไหน ทุกคนต่างต้องตกอยู่ในสภาพบังคับที่ต้องใช้เทคโนโลยี
เทคโนโลยีบล็อกเชนก็ถูกนำไปใช้งานมากขึ้นในกลุ่มสถาบันนิติบุคคลต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมการเงิน โดยธนาคารกลางของประเทศรัสเซียเองก็เตรียมเปิดตัวแพลตฟอร์มการจำนองที่ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนแล้ว
แพลตฟอร์มจำนองใช้บล็อกเชน
รายงานในวันที่ 28 พ.ค. จากสำนักข่าวท้องถิ่นของรัสเซีย Ria เผยว่าธนาคารกลางของรัสเซียกำลังพัฒนาแพลตฟอร์มการจำนองระบบดิจิทัลโดยนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้งาน โดยแพลตฟอร์มตัวนี้เรียกว่า Masterchain
ทางธนาคารกลางรัสเซียคาดว่าจะนำบันทึกเกี่ยวกับการจำนองนั้นเก็บไว้บนแพลตฟอร์ม Masterchain ซึ่งในตอนนี้ก็กำลังอยู่ในช่วงทดลองกับธนาคารใหญ่ๆ ในประเทศอยู่ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่รัฐก็ได้ออกมาเผยว่ามีธนาคารกว่า 6 แห่งที่เข้ามาทดสอบแพลตฟอร์ม Masterchain เอามาใช้กับการแลกเปลี่ยน letters of credit ด้วย
ทั้งนี้แพลตฟอร์ม Masterchain นั้นถูกเปิดตัวออกมาในปี 2017 โดยสมาคมฟินเท็คซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารกลางรัสเซียซึ่งผู้ที่เข้าร่วมโปรเจ็คก็มีธนาคารรายใหญ่ของประเทศ Sberbank, ธนาคาร Alfa, VTB, ธนาคาร Raiffeisenbank Russia and Otkritie รวมถึงสำนักงานที่ดินของรัฐบาล
ก่อนหน้านี้แพลตฟอร์ม Masterchain นั้นเคยถูกนำไปใช้กับระบบจำนองอิเล็กทรอนิกส์แล้ว โดยช่วงเดือน ก.ย. 2018 บริษัทสาขาของธนาคาร Raiffeisen Bank International ก็ได้ทำเอกสารการจำนองที่ประกอบไปด้วยการทำธุรกรรมของคู่สัญญา, จำนวนเงินกู้และระยะเวลาการกู้รวมถึงการซื้อขายทรัพย์สินทั้งหมดได้ถูกบันทึกเอาไว้ในระบบของแพลตฟอร์ม Masterchain ด้วย
สนับสนุนบล็อกเชนแต่ไม่ใช่ Cryptocurrency
ธนาคารกลางของประเทศรัสเซียค่อนข้างที่จะต้อนรับเทคโนโลยีบล็อกเชนอยู่พอสมควรและนำมันมาใช้งานจริงแต่ดูเหมือนว่าภาคกฎหมายของรัสเซียจะไม่ได้มีสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรต่อเหรียญ cryptocurrency เท่าใดนัก เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาฝ่ายนิติบัญญัติได้เสนอให้มีการลงโทษสูงถึง 2 ล้านรูเบิล ($27,800) และโทษจำคุกอีก 7 ปีในคุกสำหรับผลประกอบการที่ได้อย่างผิดกฎหมายจากสินทรัพย์ดิจิทัลและ cryptocurrency