Spot Bitcoin ETFs มียอดไหลออก 470 ล้านดอลลาร์ หลัง FED ลดดอกเบี้ย-Trump หารือการค้า
กองทุน Spot Bitcoin ETF ในสหรัฐมียอดไหลออกสูงสุดในรอบสองสัปดาห์รวมกว่า 470 ล้านดอลลาร์ หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ ปรับลดอัตราดอกเบี้ย ขณะที่ตลาดยังผันผวนจากการหารือด้านการค้าระหว่างประธานาธิบดี Trump และ Xi Jinping

กองทุน Spot Bitcoin ETF ในสหรัฐมียอดไหลออกสูงสุดในรอบสองสัปดาห์รวมกว่า 470 ล้านดอลลาร์ หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ ปรับลดอัตราดอกเบี้ย ขณะที่ตลาดยังผันผวนจากการหารือด้านการค้าระหว่างประธานาธิบดี Trump และ Xi Jinping
กองทุน Spot Bitcoin ETF ที่จดทะเบียนในสหรัฐฯ มียอดไหลออกรวม 470 ล้านดอลลาร์ในวันพุธที่ผ่านมา ขณะที่ราคาของ Bitcoin ร่วงแตะระดับ 108,000 ดอลลาร์ก่อนดีดกลับขึ้นมา ภายหลังการประกาศลดอัตราดอกเบี้ยโดยธนาคารกลางสหรัฐ ตามข้อมูลจาก Farside Investors
กองทุน Fidelity’s FBTC เป็นผู้นำการไหลออกด้วยมูลค่า 164 ล้านดอลลาร์ รองลงมาคือ ARK Invest’s ARKB ที่มียอดไหลออก 143 ล้านดอลลาร์ และ BlackRock’s IBIT ที่ตามมาด้วย 88 ล้านดอลลาร์ ส่วน Grayscale’s GBTC มียอดไหลออก 65 ล้านดอลลาร์ และ Bitwise’s BITB สูญเสียเพียง 6 ล้านดอลลาร์
กระแสไหลออกครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากกองทุนมียอดเงินไหลเข้าอย่างต่อเนื่องในช่วงต้นสัปดาห์ โดยเมื่อวันจันทร์มียอดไหลเข้า 149 ล้านดอลลาร์ และในวันอังคารกว่า 202 ล้านดอลลาร์
การขายออกในวันพุธได้ฉุดให้ยอดเงินสุทธิที่สะสมไว้ในกองทุนลดลงเหลือ 6.1 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่มูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) ลดลงเหลือ 1.49 แสนล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็น 6.75% ของมูลค่าตลาดรวมของ Bitcoin ตามข้อมูลจาก SoSoValue
ราคาของ Bitcoin รู้สึกถึงแรงกดดันหลังการลดดอกเบี้ย
ข้อมูลจาก CoinGecko ระบุว่า ราคาของ Bitcoin ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 108,201–113,567 ดอลลาร์ โดยราคายังคงอ่อนตัวลงแม้ FED จะลดดอกเบี้ยลง 0.25% แต่ราคาก็เริ่มฟื้นตัวหลังการพบปะระหว่างประธานาธิบดี Trump ของสหรัฐฯ และประธานาธิบดี Xi Jinping ของจีนเพื่อหารือประเด็นความตึงเครียดทางการค้า
ETF ยังคงถือครอง Bitcoin ในสัดส่วนที่สูง
นักวิเคราะห์หลายรายชี้ว่าความเคลื่อนไหวของกองทุน ETF มักสัมพันธ์โดยตรงกับราคาของ Bitcoin โดยกระแสเงินไหลเข้าที่แข็งแกร่งในช่วงต้นเดือนตุลาคมเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่หนุนให้ราคาปรับตัวขึ้น
แม้ยอดไหลออกในสัปดาห์นี้จะสูง แต่กองทุน ETF ยังคงถือครอง Bitcoin มากกว่า 1.5 ล้าน BTC คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1.69 แสนล้านดอลลาร์ หรือราว 7.3% ของอุปทานทั้งหมด ตามข้อมูลจาก Bitbo โดย BlackRock’s IBIT ครองอันดับหนึ่งด้วยการถือครอง 805,239 BTC รองลงมาคือ Fidelity’s ETF จำนวน 206,258 BTC และ Grayscale’s GBTC ที่ถือ 172,122 BTC
ด้าน Michael Saylor ประธานบริษัท Strategy ยังคงมองบวกต่อทิศทางตลาด โดยระบุเมื่อวันจันทร์ว่า Bitcoin จะยังมีโอกาสแตะ 150,000 ดอลลาร์ภายในสิ้นปี 2025 จากแรงหนุนของปัจจัยเชิงบวกในระบบนิเวศคริปโต
อ้างอิง : Cointelegraph
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: การลงทุนมีความเสี่ยงสูง ดังนั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนการลงทุนทุกครั้ง
ข้อมูลในบทความนี้มีจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น Cryptosiam ไม่รับประกันความสมบูรณ์ ความถูกต้อง หรือความน่าเชื่อถือของข้อมูลดังกล่าว และไม่มีสิ่งใดในบทความนี้ที่ควรใช้เป็นคำแนะนำหรือชักชวน ให้ซื้อหรือขายคริปโต รวมทั้งการประเมินใดๆ ไม่มีข้อความใดในบทความที่ถือเป็นคำแนะนำทางกฎหมาย วิชาชีพ การลงทุน และ/หรือทางการเงิน และ/หรือคำนึงถึงความต้องการเฉพาะ และ/หรือข้อกำหนดของแต่ละบุคคล
Cryptosiam และบริษัทในเครือ ขอปฏิเสธความรับผิด หรือความรับผิดชอบทั้งหมดเกี่ยวกับเนื้อหาของบทความ และการดำเนินการใดๆ กับข้อมูลในบทความนั้น เป็นความเสี่ยงของผู้อ่าน และถือเป็นความเสี่ยงแต่เพียงผู้เดียว








