กฎระเบียบข้อบังคับสำหรับ DeFi กำลังจะเกิดขึ้นแล้ว
การจัดตั้งกฎระเบียบในสภาพแวดล้อมของระบบการกระจายอำนาจ หรือที่เรารู้จักกันในนาม Decentralized นั้นนั้นจะเป็นไปได้หรือไม่? แล้วเหล่าผู้ให้บริการจะยอมรับสิ่งนี้ได้ไหม? เรามาหาคำตอบกัน
การจัดตั้งกฎระเบียบในสภาพแวดล้อมของระบบการกระจายอำนาจ หรือที่เรารู้จักกันในนาม Decentralized นั้นนั้นจะเป็นไปได้หรือไม่? แล้วเหล่าผู้ให้บริการจะยอมรับสิ่งนี้ได้ไหม? เรามาหาคำตอบกัน
Coinfirm บริษัทวิเคราะห์ Blockchain ได้ออกมาเปิดตัวแนวทางการป้องกันการฟอกเงินสำหรับ Decentralized Finance หรือ DeFi ซึ่งถือเป็นตลาดเฉพาะกลุ่มของอุตสาหกรรม Crypto และกลุ่มเล็ก ๆ กลุ่มนี้กำลังต้องเผชิญกับมาตรการป้องกันอย่างเข้มงวดที่กำลังจะเกิดขึ้น ตามที่ Jakub Fijolek หัวหน้าพนักงานฝ่ายเทคโนโลยีบริษัท Coinfirm ได้มีการกล่าวไว้ว่า
“DeFi อาจมีปัญหาทางด้านกฎระเบียบในไม่ช้า”
“จำนวนเงินทุนที่หลั่งไหลเข้าสู่แพลตฟอร์ม DeFiนั้นเติบโตขึ้นอย่างมาก”
ตลาดเล็ก ๆ ที่โตแบบฉุดไม่อยู่
ตลาดเฉพาะกลุ่มแห่งอุตสาหกรรม Crypto อย่าง DeFi นั้นเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในปี 2020 โดยเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มูลค่าโดยรวมที่ถูกล็อค (The total-value locked – TVL) บนแพลตฟอร์ม DeFi นั้นมีมูลค่ารวมสูงถึง 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ท่ามกลางการเติบโตอย่างก้าวกระโดด และความสนใจในโอกาสที่จะเกิดขึ้นทำให้มูลค่าพุ่งสูงขึ้นไปถึง 1 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2020
นี่ไม่ใช่ปีของ Centralized Exchange เอาเสียเลย
แม้ว่าปีนี้จะเป็นปีที่ดีของ DeFi แต่ทางด้านแพลตฟอร์ม Centralized Exchangeกลับพบเจอกับปัญหาบางประการ นอกเหนือจากนั้นในช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมาทาง KuCoin เองก็ต้องเผชิญหน้ากับการแฮ็กครั้งใหญ่ซึ่งส่งผลให้หลายโครงการที่มีความเกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดังกล่าวต้องหยุดการดำเนินการเอาไว้ชั่วคราว
หรือแม้แต่เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ศูนย์ซื้อขายอนุพันธ์ (Derivatives Exchange) อย่าง BitMEX เองก็ประสบปัญหาในการทำผิดกฎระเบียบข้อใหญ่ขององค์กร CFTC และDoJ ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐบาลประเทศสหรัฐอเมริกา
การโจรกรรมทำให้เห็นจุดบอดของ DeFi
เหล่าหัวขโมย KuCoin อาจมีความเชี่ยวชาญในการใช้ DeFi ในการคัดกรองสินทรัพย์ ซึ่งทำให้การติดตามสินทรัพย์ต่าง ๆ ยุ่งย่างมากขึ้น ถึงแม้ว่าหน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่องดังกล่าวจะออกมาปฏิเสธว่าทางหน่วยงานไม่มีองค์ความรู้ในการใช้ DeFi ก็ตาม แต่ถึงอย่างไร DeFiก็ยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีในการใช้เพื่ออำนวยความสะดวกในการกระทำที่ผิดกฎหมาย
เงินทุน KuCoin ที่ถูกขโมยไปได้ถูกเคลื่อนย้ายไปยังแพลตฟอร์ม DeFi และนั่นจึงถือเป็นสัญญาณที่ทำให้องค์กรที่กำกับดูแลในเรื่องดังกล่าวตื่นตัว และพร้อมที่จะหาแนวทางอสู้กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ตามที่ Fijolekได้กล่าวไว้ และในการนี้เองทางบริษัท Coinfirm จึงได้สร้าง AMLT Oracleซึ่งเป็นเครื่องมือป้องกันการฟอกเงิน หรือ Anti-Money Laundering (AML) สำหรับแพลตฟอร์ม DeFi
เจ้าเครื่อง Oracle นั้นสามารถนำ Addresses มาใช้ผ่านตัวคัดกรอง และทำการตรวจสอบว่า Addresses ดังกล่าวเคยมีความเกี่ยวข้องกับสิ่งที่น่าสงสัยมาก่อนหน้านี้หรือไม่ โดยโครงการ และการแลกเปลี่ยนดังกล่าวสามารถหยุดกองทุน หรือหยุดการโอนจาก Addresses ดังกล่าว ตามที่ Fijolek อธิบายไว้:
“โดยปกติแล้ว เครื่องมือชิ้นแรกที่พวกเราได้สร้างขึ้นก็คือ Oracle ซึ่งเหตุผลที่ทำให้พวกเราจัดตั้งปฏิบัติการในครั้งนี้ว่า Oracle นั้น เนื่องจากมันช่วยให้รูปแบบการแจ้งเตือนเดิมที่โดยปกติจะใช้ระบบ Centralized Exchange บน On-Chain Manner แต่เพียงอย่างเดียว ช่วยให้คุณสามารถส่งคำขอในการทำธุรกรรมไปยัง Oracle ด้วยการแจ้งเตือนที่คุณต้องการเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลที่ถูกต้อง และหลังจากใช้ Blocks ไปไม่กี่ชิ้น คุณจะสามารถสอบถามสถานะการทำธุรกรรมของ Address เหล่านั้น และระบบของเราจะมอบ C Score และ Report ID ให้กับคุณ”
ด้วยเทคโนโลยีใหม่ตัวดังกล่าวที่มาพร้อมกับการควบคุมทางเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าขึ้นในภาคส่วนดังกล่าว เครื่องมือชนิดใหม่ของทางบริษัท Coinfirm จะช่วยเพิ่มศักยภาพให้กับระบบป้องกันการฟอกเงิน แม้ว่าในทางปฏิบัติแล้ว กฎระเบียบข้อบังคับจะส่งผลให้การพิสูจน์ข้อมูลยุ่งยากมากขึ้นก็ตาม ท้ายที่สุดแล้ว มันอาจขึ้นอยู่กับแต่ละโครงการว่าจะมีแนวคิด Freeze Transactions หรือไม่ ซึ่งเป็นแนวคิดที่ยังคงเป็นเรื่องที่ถกเถียงกันในอุตสาหกรรมหลักที่ใช้หลักการ Decentralized ของ Bitcoinซึ่งเป็นสินทรัพย์ระดับโลก
