Blockchain

มุมมองของ CEO Bitkub ต่อเทคโนโลยี Blockchain และ Cryptocurrency

Bitkub.jpg

ยุคปัจจุบันบทบาทของเทคโนโลยี Blockchain and Cryptocurrency ที่มีมากขึ้นและส่งผลต่อรูปแบบการใช้ชีวิตโดยที่เราอาจรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม

อุตสาหกรรม Cryptocurrency ในไทยเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้ที่สนใจ Cryptocurrency มีมากขึ้น รวมถึงผู้ที่มีความสนใจในด้านนี้อยู่แล้วก็มองว่า Cryptocurrency จะเติบโตไปอีกมากและหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญ Cryptocurrency ในไทยที่เราจะมาพูดถึงในวันนี้ก็คือนายจิรายุศ ทรัพย์ศรีโสภา ซึ่งเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท Bitkub กระดานเทรด Bitcoin ชื่อดังของไทย

นายจิรายุศ ทรัพย์ศรีโสภา (คุณท็อป) จบการศึกษาปริญญาโทจากคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัย Oxford ชั้นนำของโลก ซึ่งตัวเขานั้นมีความชื่นชอบเทคโนโลยี Blockchain เป็นอย่างมาก ถึงขนาดที่ว่าเขานั้นเชื่อว่าเทคโนโลยี Blockchain และ Bitcoin จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงโลกเราไปอย่างสิ้นเชิง

เริ่มรู้จักและศึกษา Bitcoin และ Blockchain

นายจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ได้ขึ้นแท่นติดอันดับเป็น 1 ใน 100 คนที่สร้างสรรค์ผลงานที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลกจาก LATTICE8O และในขณะนี้ก็เป็นหนึ่งในกรรมการบริหารสมาคมฟินเท็คแห่งประเทศไทย

ส่วนตัวเขาได้เริ่มรู้จัก Bitcoin ในช่วงที่เข้าไปทำงานด้าน Investment Banking ในประเทศจีน ช่วงประมาณปี 2556 ซึ่งเป็นช่วงที่ราคา Bitcoin พุ่งถึง 1,000 ดอลลาร์ จากนั้นเขาก็ได้เริ่มศึกษา Bitcoin อย่างจริงจังและพบว่ามันเป็นระบบที่สร้างอยู่บน Blockchain และเมื่อศึกษาดูแล้วเขาจึงรู้ว่าเทคโนโลยีนี้มันจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงโลกเราอย่างสิ้นเชิง

บทบาทของ Blockchain เพิ่มมากขึ้น

หลังจากที่เขาได้ศึกษาเทคโนโลยี Blockchain และ  Cryptocurrency  เขาก็ได้เริ่มเดินสายเป็นวิทยากรผลักดันความรู้ด้านนี้ให้กับคนอื่นๆ จนกระทั่งสื่อต่างๆเริ่มประโคมความสนใจไปที่เขาและได้มีการสัมภาษณ์เกี่ยวกับ Blockchain และ Cryptocurrency มากมาย

โดยตัว Blockchain มันเข้ามามีความสำคัญยังไง? ตัวนายจิรายุสได้เคยให้สัมภาษณ์กับ The Standard เอาไว้อธิบายถึงกลไกการทำงานของ Blockchain พร้อมชี้ให้เห็นว่าโลกก่อนหน้าที่ยังไม่มี Blockchain และระบบอินเตอร์เน็ตเราจะใช้ตัวกลางเป็นสื่อแลกเปลี่ยนสาร เช่น โทรเลข ไปรษณีย์ แต่เมื่อมี Blockchain นี้ขึ้นมามันเข้ามาช่วยเพิ่มมูลค่าของสิ่งต่าง ๆ ซึ่งผู้ใช้งานสามารถอัปโหลดสิ่งที่มีมูลค่าลงบนอินเตอร์เน็ตและสามารถทำธุรกรรมได้โดยนำตัวกลางออกไป ซึ่งวิธีนี้คือการ Digitize (ทำให้อยู่ในรูปแบบดิจิทัล) สินทรัพย์ที่มีมูลค่าแล้วส่งไปหาคนอื่น

ด้วยคุณสมบัติของตัวเทคโนโลยี Blockchain มันสามารถถูกนำไปใช้งานได้หลากหลาย โดยผู้ใช้งานอาจไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองใช้งาน Blockchain อยู่ไม่ว่าคนใช้จะเชื่อหรือไม่

อนาคต Cryptocurrency เข้ามามีบทบาท สังคมเป็นรูปแบบไร้เงินสด

ปัจจุบันเราได้เห็นการใช้งาน Cryptocurrency เพิ่มมากขึ้นกว่าแต่ก่อน บริษัทด้านการเงินหรือการธนาคารต่างนำประโยชน์ของ Cryptocurrency ไปใช้ แบงก์ชาติต่างเริ่มออกเหรียญดิจิทัลของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นประเทศจีนหรือประเทศไทยเราที่ก็มีโปรเจ็คเงินดิจิทัลของธนาคารกลางอยู่ ซึ่งมันบ่งบอกว่าต่อไปการใช้งานเงินสดจะน้อยลงแน่นอน

ตัวนายจิรายุสก็เชื่อเช่นนั้น โดยเขามองว่าอนาคตสังคมเป็นแบบ Cashless แน่นอนและ Blockchain นี้มันก็เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วมาก ในอีก 5-10 ปีต่อจากนี้เราจะได้เห็นผลกระทบของมันอย่างมหาศาล

เราได้เห็นมุมมองของนายจิรายุสแล้วว่าเขานั้นเชื่อมั่นในตัวเทคโนโลยี Blockchain และ Cryptocurrency เป็นอย่างมาก และต่อไปอนาคตจะยิ่งเป็นดิจิทัลมากขึ้น ระบบการเงินก็จะอยู่ในรูปแบบไร้เงินสด ซึ่ง Cryptocurrency และ Blockchain จะเข้ามามีบทบาทสำคัญตรงนี้

ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต
ข่าวต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง